มท.2 ย้ำแก้ปัญหาความยากจน ส่งเสริมท่องเที่ยว 3 จชต.
12 พ.ย. 2563, 17:47
วันนี้ (12 พ.ย.63) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมซีเอส จ. ปัตตานี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานโครงการของคณะอนุกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน) เป็นประธานการประชุมพิจารณากลั่นกรองแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ณ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทีมบูรณาการกลาง ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อนำเสนอโครงการภายใต้แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดต่อคณะทำงานฯ
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวมุ่งเน้นเพื่อให้แผนงานโครงการที่เสนอรับการพิจารณานั้น มีความชัดเจนและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค(ก.บ.ภ.) และให้เป็นไปตามกรอบวงเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร รวมทั้งการตอบสนองปัญหาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่และสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ภาคใต้ชายแดน
นายนิพนธ์ รมช.มท. ได้มอบนโยบายและกำชับให้จังหวัดต่างๆได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ที่เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐเร่งรัดการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่หดตัวอันเนื่องมาจากจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019(COVID-19) ที่ส่งผลให้ภาคบริการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยให้ส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตามมาตรการเร่งรัด การเบิกจ่ายได้แก่ ค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในช่วงไตรมาส 1 ให้มากที่สุด หรือไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร โดยพิจารณาสนับสนุนโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กในเมืองท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะเมืองรองเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสฯ อีกด้วย
นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าวว่า "การจัดทำแผนงานโครงการเพื่อพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่เป็นหลัก โดยใช้เรื่องของการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมและแก้ไขปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่เพิ่มขึ้น เช่น การปลูกผลไม้ที่เป็นที่นิยมของตลาด เป็นต้น รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ อย่างเช่น "สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง" ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกที่มีความสวยงามและกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวน จะต้องมีการพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการจัดทำแผนงานโครงการต่างๆเพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม จะเป็นส่วนผลักดันเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม"