จากกรณีที่ชาวบ้านเดือดร้อนร้องผ่านสื่อไปก่อนหน้านี้ถึงสัตว์เสียชีวิตจากโรคปากเท้าเปื่อย ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี นำทีมลงพื้นที่ตำบลกลอนโด เร่งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อปากเท้าเปื่อย ตามคอกวัวในพื้นที่พบการแพร่ระบาด ประกาศพื้นที่เขตโรคระบาดชั่วคราวในตำบลกลอนโด พร้อมมีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เป็นเวลา30วัน มั่นใจคุมอยู่ ขณะสัตว์ที่ป่วยบางส่วนอาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ หลังจากเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวในพื้นที่ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง11หมู่บ้าน กำลังประสบความเดือดร้อน จากการแพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยในวัว ส่งผลให้มีวัวที่ติดเชื้อล้มป่วยนับร้อยตัว และมีวัวที่เสียชีวิตไปแล้วหลายสิบตัวนั้น

 

ล่าสุด วันนี้ 13 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าว ON news รายงานว่า นายสัตวแพทย์พรศักดิ์ ประสมทอง นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ได้นำทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ปศุสัตว์อำเภอด่านมะขามเตี้ย และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรี เดินทางลงพื้นที่ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย เพื่อทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อปากเท้าเปื่อย ตามคอกวัวที่พบการแพร่ระบาดในตำบลกลอนโด เพื่อเป็นการทำลายเชื้อและป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง

 

โดยนายสัตวแพทย์พรศักดิ์ กล่าวว่า ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทราบเรื่องการพบวัวที่ป่วยด้วยโรคปากเท้าเปื่อยในตำบลกลอนโดแล้ว และได้มีการประกาศให้พื้นที่หมู่2 ตำบลกลอนโด เป็นพื้นที่เขตโรคระบาดชั่วคราว มีรัศมีครอบคลุมพื้นที่ 5 กิโลเมตร พร้อมทั้งมีการประกาศคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เป็นเวลา 30 วัน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมถึงมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลกลอนโดที่พบการแพร่ระบาดแล้ว แต่สาเหตุที่พบว่ามีการแพร่ระบาสดของโรคปากเท้าเปื่อยไปในพื้นที่หมู่อื่นในตำบลกลอนโดนั้น น่าจะมาจากการที่เกษตรกรที่มีสัตว์ป่วยด้วยโรคปากเท้าเปื่อย ไม่ได้แจ้งทางปศุสัตว์อำเภอ และทำการฉีดยารักษากันเอง

 

โดยสัตว์ที่ตายก็ทำการฝังกลบกันเองโดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ทำให้เกษตรกรรายอื่นที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง ไม่รู้ว่าเริ่มมีการพบวัวป่วยโรคปากเท้าเปื่อย จึงไม่ได้มีการเฝ้าระวัง จนทำให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไปในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบกับในพื้นที่ตำบลกลอนโด นั้น ไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อมานาน เกษตรกรบางรายจึงนิ่งนอนใจและไม่ได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับวัวที่เลี้ยงไว้ตามที่กำหนดทุกๆ 6 เดือน ทำให้วัวติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากทางสำนักงานปศุสัตว์ทราบว่ามีการแพร่ระบาดในหลายหมู่บ้าน ก็ได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงฉีดพ่นน้ำยาห่าเชื้อ รวมถึงตรวจสอบวัวที่ติดเชื้อและทำการฉีดยาปฎิชีวนะ รักษาอาการเบื้องต้นให้แล้ว ซึ่งก็พบว่าวัวที่ติดเชื้อและล้มป่วยส่วนใหญ่ มีอาการดีขึ้นมากกว่า50เปอร์เซ็นต์แล้ว จึงมั่นใจว่า จะสามารถควบคุมพื้นที่การแพร่ระบาดไม่ให้ขยายวงกว้างกว่าที่เป็นอยู่ได้

 

 โดยหลังจากนี้ ทีมเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและติดตามอาการของวัวที่ป่วยอย่างใกล้ชิดทุกวัน จนกว่าจะหายขาดจากโรคดังกล่าว ทั้งนี้ หากเกษตรกรท่านใดที่สงสัยว่า วัวที่เลี้ยงไว้จะติดเชื้อโรคปากเท้าเปื่อย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอด่านมะขามเตี้ยหรืออาสาสมัครปศุสัตว์ในพื้นที่ให้เข้าตรวจสอบได้ทันที เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะสามารถดำเนินการเข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่และทำการตรวจรักษาวัวที่ติดเชื้อได้อย่างทันท่วงที ก่อนจะมีการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้./