เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายนฤเศรษฐ์ แก้วคง หัวหน้าป้องกัน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) นายสมศักดิ์ เสนีย์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 12 สาขากระบี่ ร.ต.อ.นิพนธ์ พลอยขาว รอง ผบ.ร้อย ตชด.425 ด.ต.สุชน ไชยขาว ผบ.หมู่ กก.ตชด.425 ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ป่าป้องกันกันและปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425 ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 12 สาขากระบี่ จำนวนกว่า 20 นาย ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ตามที่ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีว่า มีการลักลอบแปรรูปไม้บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่า เทือกเขาแม่นางขาว หมูที่ 7 บ้านบางเอียง ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา และที่ศาลาหมู่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านตำหนัง แปรรูปอีกในศาลาหมู่บ้าน ซึ่งจุดแรก ในศาลาดังกล่าวพบไม้แปรรูปจำนวนหนึ่ง รอการแปรรูป เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้ไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาได้เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณเทือกเขาแม่นางขาว หมูที่ 7 บ้านบางเอียง ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา ขณะนั้นได้พบ กลุ่มชาวบ้าน 3 - 4 คน กำลังนำไม้แปรรูปมาวางกองกระจายบนเทือกเขาแม่นางขาว แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบจับกุมต่างคนต่างวิ่งหลบหนีเข้าป่าและได้ขี่รถ จยย. ออกมาสวนทางกับเจ้าหน้าที่อีกชุด ถูกเจ้าหน้าควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 2 คน พร้อมเครื่องเลื่อยยนต์ซึ่งดัดแปลงใส่ท่อเก็บเสียงป้องกันเสียงดัง อุปกรณ์ตัดไม้จำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องสงสัยให้การปฏิเสธ แม้ที่ร่างกายตามตัวมีเศษไม้ขี้เลื่อยติดตามเสื้อผ้า อ้างว่ามาหาไม้ยางไม้พารา แต่เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยไปยังป่าเทือกเขาแม่นางขาวจุดพิกัดที่เกิดเหตุ พบกับต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวน 10 ต้น ชนิดไม้ตะเคียนสามพร ไม้เสียดช่อ และไม้หวงห้ามชนิดอื่นๆ ถูกตัดโค่นล้มลงมา ซึ่งเป็นการกระทำอย่างเหิมเกริม และไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังพบไม้แปรรูปแล้ว จำนวน 100 ชิ้น วางกองตามจุดต่างๆ เตรียมขนย้ายออกจากป่า ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้นำไม้ของกลางมาเปรียบเทียบกับไม้ที่พบโรงงานไม้มีลักษณะคล้ายกับไม้ชนิดเดียวกันที่ถูกตัดโค่นพบในเกิดเหตุเทือกเขาแม่นางขาว

 

 

ต่อจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 12 สาขากระบี่ ได้ประสานทาง นายวิริยะ อ่อนแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่พังงา 3 เจ้าของพื้นที่ให้เข้ามาตรวจสอบด้วย พร้อมให้ขยายผลไปตรวจสอบที่บริเวณใกล้กับที่ทำการกำนันตำบลบางวัน อ.คุระบุรี พบเป็นที่โรงงานแปรรูปไม้มีเครื่องแปรรูปไม้ เครื่องรีดไม้ และไม้แปรรูปแล้วจำนวนกว่า 200 แผ่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงยึดไม้ที่พบทั้งไม้ไว้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะดำเนินการติดตามหาตัวผู้ว่าจ้างกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตาม ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามตามมาตราป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ฐานทำไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 48 ฐานมีไม้สักแปรรูป ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และมาตรา 14 ข้อหาฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาอีกว่า ในการสืบสวนในทางลับพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มทุนและมีข้าราชการบางหน่วยงาน ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลกลุ่มหนึ่งและในอดีตที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจค่อยให้การสนับสนุนการบุกรุกครอบครองพื้นที่ส่งผลให้มีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างกว้างขวาง อ้างว่าไม้ดังกล่าวพาไปทำโต๊ะประชุม โต๊ะทำงาน ให้กับผู้ใหญ่ระดับสูง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวไม่กล้าที่จะแจ้งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เพราะบางรายมีส่วนรู้เห็นกับการรับผลประโยชน์กับการค้าไม้เถื่อนรายใหญ่ในจังหวัดพังงา จึงได้แจ้งเรื่องร้องเรียนไปยัง ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) ชุดพยัคไพร ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบการกระทำผิดจริง และตัดต้นไม้เสียหายอย่างมหาศาลซึ่งในสายลับ ระบุขบวนการตัดไม้รายใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว มีการกระทำมาเป็นเวลานานแล้ว จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเสนอผู้บังคับบัญชา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป