เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ ปลื้ม!ผลักดันลงนาม RCEP สำเร็จ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่


19 พ.ย. 2563, 10:48



นายกฯ ปลื้ม!ผลักดันลงนาม RCEP สำเร็จ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่




วันนี้ (19 พ.ย. 2563) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความสำเร็จที่สามารถมีการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา หลังใช้เวลาในการเจรจากว่า 7 ปี



ทั้งนี้ความตกลง RCEP จะเป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศ คือสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจาอาเซียนอีก 5 ประเทศ ได้แก่  ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นความตกลงความร่วมมือทางการค้าที่มีตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้เคยลงนามกัน ประเทศที่เข้าร่วมตกลงกันทั้ง 15 ประเทศมีประชากรรวมคิดเป็น 30% ของประชากรโลก (เกือบ 2,252 ล้านคน) และมี GDP รวมกันคิดเป็น 30% ของ GDP โลก (กว่า 26.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 817.7 ล้านล้านบาท) มีมูลค่าการค้ารวมคิดเป็น 27.4% ของมูลค่าการค้าโลก (กว่า 10.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 326 ล้านล้านบาท)

ซึ่งการลงนามครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จจากความพยายามของประเทศไทยในการเจรจาในวาระที่ไทยเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2562 ซึ่งความตกลง RCEP นี้ มีการเจรจากันมาอย่างยาวนานตั้งแต่การประกาศให้มีการเริ่มเจรจาจัดทำความตกลง RCEP อย่างเป็นทางการในปี 2556


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นความภูมิใจ ที่รัฐบาลจะเพิ่มโอกาส และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่สินค้าไทย ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมเมื่อเปรียบเทียบกับ FTA ที่ไทยมีอยู่เนื่องจากมีการเปิดตลาดยกเว้นภาษีใน RCEP เพิ่มมากขึ้น โดยข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค (RCEP)นี้ เป็นข้อตกลงที่จะขยายและกระชับความผูกพันของอาเซียนกับออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และนิวซีแลนด์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของข้อตกลง RCEP คือการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ทันสมัย ครอบคลุม คุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งจะเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าและการลงทุนในภูมิภาคและสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของโลก  ดังนั้นจะนำมาซึ่งโอกาสทางการตลาดและการจ้างงานให้กับธุรกิจ และผู้คนในภูมิภาคอีกทั้ง ข้อตกลง RCEP เป็นข้อตกลงที่ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อวันนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นข้อตกลงสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วย  เป็นการปรับปรุงความครอบคลุมของเขตการค้าเสรีอาเซียนบวกหนึ่งที่มีอยู่ (FTA ของอาเซียนกับคู่เจรจา 5 ประเทศ) และคำนึงถึงความเป็นจริงทางการค้าที่เปลี่ยนแปลง และเกิดขึ้นใหม่ ร วมถึงยุคของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ศักยภาพของวิสาหกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดย่อม การขยายตัวของภูมิภาค ห่วงโซ่คุณค่า และความซับซ้อนของการแข่งขันในตลาด  นอกจากนี้ ข้อตกลง RCEP นี้เป็นการปรับปรุงและเสริมข้อตกลงที่มีอยู่แล้วในบทบัญญัติขององค์การการค้าโลก (WTO) อีกด้วย






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.