"หญิงวัย46ปี" สุดเศร้าแทบขาดใจ หลังลูกชายรถล้มซ้ำโดนเหยียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม (ภาพ)
4 มิ.ย. 2562, 19:19
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางพิกุล พรมวงค์ อายุ 46 ปี 41 ม.3 ต.เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เผยว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างเย็บผ้า ปะ-เปลี่ยนซีบ อยู่ตลาดไฟฟ้า อำนครชัยศรี พร้อมญาติกว่า 5-6 คนเล่าว่าจากเหตุการณ์สูญเสียลูกชาย ไร้คนสนใจ ต่องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม คาใจการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกชาย น้องเอ็ม เสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พค.2562 เวลาประมาณ 17.00 น.ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจของนางพิกุล ทราบข่าวว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุที่ถนนสายภัทรญาณ-ศรีษะทอง พื้นที่ ม.4 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ไม่รู้สึกตัว จึงได้รีบมาพบลูกชายชื่อนายประพันธ์ บุญคำ (เอ็ม)อายุ 22 ปี 51/7 ม.4 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พบลูกชายนอนแน่นิ่งไม่ได้สติ มีเลือดไหลออกบริเวณศรีษะ เปิด มีมันสมองไหล และแขนด้านขวามีร้อยคล้ายล้อรถเหยียบ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิและกู้ชีพ ได้ช่วยเหลือปฐมพยาบาลพร้อมทั้งรีบนำส่งโรงพยาบาลอำเภอนครชัยศรีเป็นการด่วน และพบรถจยย.ฮอนด้าเวฟไอ สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฐ-1704 นครปฐม สภาพล้มตะแคงมีร่องลอยถลอกบริเวณมุมขวาของหน้ากากรถจยย.และบริเวณบังลมด้านขวา และมุมขวาที่พักเท้าของรถจยย.คันที่เกิดเหตุ พร้อมถังนำ้ 1 ถังที่บรรจุนำ้มายังไม่แตกและรถกระบะ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน 5 กญ-12 กทม.จอดอยู่ข้างถนนมีหญิงสาวเป็นผู้ขับขี่
จากนั้นนางพิกุล แม่ ของน้อง เอ็ม เล่าอีกว่าได้ตามลูกชายไปที่โรงพยาบาลอำเภอนครชัยศรี ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอาการของน้องหนักจะต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมอย่างเร่งด่วน จึงได้ส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม จากนั้นทางด้านแพทย์ทำการตรวจรักษาให้การช่วยเหลือน้องเอ็ม ทางด้านแพทย์ได้แจ้งว่าอาการโคม่า มาจากรพ.นครชัยศรีแล้ว พร้อมทั้งเรียก แม่ -ป้า ญาติไปคุยอาการของน้องเอ็ม ว่าโดนจุดสำคัญก้านสมอง และแขนหัก ถ้าผ่าตัด ฟื้นขึ้นมาจะไม่เป็นเหมือนเดิม เพราะน้องโดนจุดสำคัญของร่างกาย ทางญาติจะผ่าตัดน้องหรือไม่ ถ้าผ่าก็จะยื้อชีวิตน้องเอ็ม ได้ระยะหนึ่งเท่านั้น โอกาสดีขึ้นจะแทบไม่มี ทางญาติจึงได้ตกลงกันว่าไม่ผ่า หวังพึ่งรอปาฏิหาริย์ แต่ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้นกับน้องเอ็ม ในวันที่ 14 พค.2562 น้องเอ็มได้หมดลมหายใจไปจากโลกนี้เสียแล้วทำให้ แม่-ยาย-น้องสาว-ป้า-ลุง-ญาติพี่น้องต่างเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการผ่าตัดต้องใช้เงินจำนวนมากประมาณ 80,000 บาท ทางด้าน พรบ.รถจยย.จ่ายให้ 30,000 บาท จ่ายให้ รพ.นครชัยศรี 2,181 บาท และจ่ายให้รพ.ศูนย์นครปฐม 27,819 บาท และมีเงินคงค้าง รพ.ศูนย์นครปฐมอีก 50,000 บาท ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถนำร่างน้องเอ็มไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาไม่ได้
ทางด้านนางพิกุล พรมวงค์ แม่น้องเอ็ม ได้ไปวิ่งหยิบยืมเงินกับเจ้าของเขียงหมูในตลาดไฟฟ้าที่ลูกชายเคยไปช่วยขายหมูมาได้ 3 หมื่นกว่าบาท แต่เงินก็ยังไม่พอที่จะต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาล นางพิกุลยังเล่าอีกว่าทางหมอได้แนะนำก่อนที่จะนำร่างน้อวเอ็มใไปผ่าซันสูตร ว่าดวงตาน้องดี คุณแม่จะบริจาคไหม ซึ่งคุณแม่ก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนลูกชายยังมีชีวิตอยู่เคยพูดกับตนเองว่าจะบริจาคร่างกาย จึงได้บริจาคดวงตาให้กับโรงพยาบาลและอวัยวะอื่นๆที่ทางแพทย์จะนำไปช่วยคนอีกหลายๆทางแม่น้องเอ็มก็ยินดี เพื่อสร้างบุญกุศลให้น้องเอ็มในภพภูมที่ดี จากนั้นตนเองได้ได้แจ้งจากหมอว่าค่าใช้จ่ายในการนำศพน้องออกโรงพยาบาลเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาจึงได้จ่ายไป 3,3049 บาท เมื่อพร้อมจึงไปรับศพลูกชายในวันที่ 16 พค.2562 มาตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดแค เป็นเวลา 4 วันซึ่งไม่มีรถคู่กรณีหรือใครจะมารับผิดชอบและสนใจลูกชายของตนเองเลยจากนั้นนางพิกุล ยังมั่นใจว่าลูกชายรถจยย.ล้มลงและรถยนต์วิ่งสวนมาต้องเหยียบลูกชายแน่นอนอาจจะมีเหยียบถึง 2 คันเพราะรถขับตามกันมา
ต่อมาได้ไปที่สถานีตำรวจสภ.นครชัยศรีพร้อมญาติพี่น้อง ไปพูดคุยกับร้อยเวรเรื่องคดีความ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนเท่าทีควร และทราบว่ารถคันดังกล่าวมีกล้องหน้ารถ จึงได้ขอดูภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันที่เป็นคู่ จากการดูในครั้งแรกในภาพพบลูกชายขับจยย.บรรทุกถังนำ้ 1 ใบที่บรรจุนำ้เต็มถังยังไม่แตก และรถเสียหลักไถลล้มทำให้รถไหลข้างทางส่วนตัวของลูกชายอยู่ในเลนของเขาแต่ส่วนศรีษะได้ยื่นออกไปอีกเลนหนึ่ง
นางพิกุล เล่าต่ออีกว่าในคลิปกล้องหน้ารถเห็นลูกชายยกหัวขึ้นมา มองไปเห็นรถยนต์คันที่ติดกล้องวิ่งมาและก็ได้ยินเสียงเหมือนชนดังแรง และก็มีเสียงหญิงสาวร้องด้วยอาการตกใจสักพักภานในกล้องรถวิ่งจอดข้างถนน. ส่วนตนเองจะขอภาพคลิปบันทึกเอาไว้ดูสาเหตุที่ลูกชายของตนเอง แต่ทางเจ้าหน้าทีไม่อนุญาติให้บันทึกได้เพียงจะเอาไว้ดูช่วงที่ลูกชายรถล้มและยกหัวขึ้นมา
ต่อมาอีกก็ขอดูภาพกล้องหน้ารถอีกครั้งแต่ครั้งนี้ภาพไม่ค่อยเหมือนเก่าแล้ว ซึ่งเกิดอะไรขึ้นตนเองก็ไม่ทราบเช่นกัน ในครั้งแรกที่ขอดูภาพกล้องหน้ารถ ไปดูกันถึง 4 คน ซึ่งทางตนเองได้บันทึกคลิปเสียงการที่รถชนอะไรเสียงดัง และเสียงร้องของหญิงสาวที่ตกใจ
นางพิกุล พรมวงค์ ขอความเมตตาวอนหน่วยงานช่วยพวกเราด้วยให้ความเป็นธรรม ความยุติธรรม กับครอบครัวเราด้วย ครอบครัวของตนเองยากจน มีลูกชายเป็นเสาหลักเอาไว้ฝากชีวิตกับลูกชาย ลูกชายก็มาเสียชีวิตลง ที่เหลืออยู่ก็มีตนเอง -ลูกสาว คนเล็กอายุ 17 ปี ช่วยแม่เย็บผ้า ปะผ้า ที่ตลาด และยาย นางบัวเรียน หลักคำแพง อายุ 73 ปี ก็เก็บดอกรัก คู่กับน้อง เอ็ม แต่น้องก็มาเสียชีวิตลง ทั้งๆที่มีคนเห็นเหตุการณ์ว่ารถยนต์เหยียบลูกชายตนเองจริง ขับรถจยย.ล้มลงแต่หัวไม่ได้ฟาดแรงซึ่งสภาพรถจยย.ไม่เป็นอะไรมากแค่ถลอกนิดหน่อย ทำไมคนขับเป็นมากมายสมองเปิด แขนหัก ช่วงไหล่ยังมีร่องรอยคล้ายล้อรถเหยียบ ตนเองอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายด้วยวอนหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจลงมาตรวจสอบเรื่องราวที่แท้จริงนางพิกุล กล่าว