วันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ตลุก ว่าถนนสายข้างศูนย์เด็กเล็กบ้านหนอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 8 และ หมู่ที่ 9 ต.ตลุก  อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 4 เมตร ยาว 800 เมตร เป็นถนนที่กั้นระหว่างสระเก็บน้ำวัดบ้านหนอง กับ ลำน้ำธรรมชาติบ้านหนอง ได้เกิดการทรุดตัว พังถล่มลงไปในลำน้ำบ้านหนอง เป็นทางยาวกว่า 6 เมตร ลึกกว่า 2 เมตร  โดยจุดที่ถนนพัง อยู่ห่างจากศูนย์เด็กเล็กบ้านหนอง ประมาณ 600 เมตร ส่งผลชาวบ้านที่เคยใช้เป็นเส้นทางสัญจรต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น อีกทั้งหวั่นจะเกิดอันตรายกับเด็กๆในหมู่บ้าน เพราะเคยใช้เส้นทางนี้เดินทางไปโรงเรียน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปซ่อมแซม 

นายเทอญ จันทร์สว่าง อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่ 9  เปิดเผยว่า ถนนได้ถูกน้ำกัดเซาะ ทรุดตัวมาเรื่อยๆ แต่ชาวบ้านก็ยังสามารถใช้ถนนสัญจรได้ จนกระทั่งช่วงกลางดึกเมื่อวันที่ 5 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงดังตึ้ม มาจากบริเวณถนนทรุดตัว แน่ใจว่าถนนต้องพังลงไปในน้ำแน่นอน พอรุ่งเช้าออกมาดู ก็พบว่าเป็นจริง ตอนนี้ชาวบ้านที่เคยใช้เส้นทางนี้ ต่างได้รับความเดือดร้อน  เพราะต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่น โดยเฉพาะผู้ปกครองที่เคยใช้เส้นทางนี้ เดินเท้าไปส่งบุตรหลานไปเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านหนอง   และเด็กๆ ที่ใช้เดินเท้าไปโรงเรียน ต้องเดินอ้อมไปใช้เส้นหน้าวัดบ้านหนอง ทำให้ต้องเดินทางไกลขึ้นกว่าเดิม

ด้าน นางจันทร์วรางษ์ สิทธิพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ตลุก เปิดเผยว่า ถนนดังกล่าวได้เริ่มทรุดตัวมาประมาณ 1 เดือน หลังจากก่อนหน้านี้ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำในสระเก็บน้ำภายในวัดบ้านหนอง และปริมาณน้ำธรรมชาติในลำน้ำบ้านหนอง ซึ่งอยู่ขนาบสองข้างถนน มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และน้ำได้กัดเซาะดินใต้ถนนจนเป็นโพรง ทำให้ถนนเริ่มทรุดตัวเรื่อยมา และเมื่อน้ำลดลง ดินใต้ถนนก็ยิ่งทรุดตัวเป็นทางยาว โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแล้ว เพื่อความปลอดภัย และได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเทศบาลตำบลตลุก ให้ช่วยเข้ามาซ่อมแซมถนน แต่ยังไม่ทันได้ซ่อมแซม  ถนนก็มาเกิดทรุดตัวพังถล่มลงไปในน้ำเสียก่อน