นายกฯ ให้พิจารณาขยายโครงการคนละครึ่ง ระยะ 2 เน้นครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
21 พ.ย. 2563, 15:07
สถานีข่าวกระทรวงการคลัง ได้เผยแพร่ชี้แจงประเด็น : ข้อวิจารณ์การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง โดยระบุว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ขอชี้แจงประเด็นข้อวิจารณ์การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งว่า โครงการคนละครึ่ง เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย
(1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือเยียวยา เพิ่มกำลังซื้อ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มดังกล่าว
(2) โครงการคนละครึ่ง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้จากการขายสินค้า โดยกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 10 ล้านคน
(3) มาตรการช้อปดีมีคืน เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี โดยผู้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ประมาณ 3.7 ล้านคน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า รัฐบาลมีความต้องการดูแลประชาชนให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม ซึ่งนอกเหนือจากมาตรการดังกล่าวแล้ว รัฐบาลยังได้มีการดูแลประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ผ่านมาตรการอื่น ๆ ของรัฐด้วย
ในส่วนของโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนนั้น เนื่องจากเป็นการร่วมจ่าย กลุ่มเป้าหมายจึงเป็นผู้ที่พอจะมีรายได้เพื่อมาร่วมจ่ายกับรัฐ ซึ่งได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10 ล้านคน โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญของโครงการ คือ ระบบการใช้จ่ายด้วยแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" และ "ถุงเงิน" ที่ต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้ใช้ให้มั่นใจว่าไม่มีผู้อื่นมาใช้สิทธิแทน และมีการใช้จ่ายจริงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ระบบดังกล่าวเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับประชาชนจนถึงระดับฐานราก ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาให้สังคมไทยเดินหน้าสู่ Digital Society ไปพร้อม ๆ กัน ในขณะเดียวกันยังเป็นการลดการใช้เงินสด ทำให้การดำเนินโครงการโปร่งใส รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากในการลงทะเบียนรอบเพิ่มเติม 2 ครั้งที่ผ่านมา เพื่อให้ได้ 10 ล้านสิทธิ มีประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีจึงได้มีดำริให้กระทรวงการคลังพิจารณาขยายโครงการคนละครึ่ง ซึ่งกระทรวงการคลังจะพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และสอดคล้องกับงบประมาณที่สามารถจัดสรรได้ รวมทั้งจะพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้าและประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้น