เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เก๋งประสานงาเก๋ง บนถนนสายพนมทวน-กำแพงแสน​ เจ็บ 3 ดับ 1


24 พ.ย. 2563, 13:35



เก๋งประสานงาเก๋ง บนถนนสายพนมทวน-กำแพงแสน​ เจ็บ 3 ดับ 1




วันที่​ 24​ พ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า​ ​พ.ต.ท.ไชยยศ​ พฤติพงศ์พาณิชย์​ สารวัตรเวรสอบสวน​ สภ.พนมทวน​ จ.กาญจนบุรี​ ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจจุดบริการประชาชนบ้านปลักเขว่า​ ต.หนองสาหร่าย​ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนประสานงากันมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย

ในที่เหตุเกิดบนถนนสายพนมทวน-กำแพงแสน​ หมู่​ 8​ ต.หนองสาหร่าย​ อ.พนมทวน​ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า​ เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์ (กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​ ร่วมกับกู้ชีพ​ รพ.มะการักษ์ กำลังเร่งใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน​ 4​ ราย ที่ร่างถูกอัดก็อบปี้ติดอยู่ภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริสสีดำ​ หมายเลขทะเบียน​ กท.-6906 กาญจนบุรี​ ที่ชนประสานงากันกับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าบีโอ้สีบรอนซ์เงิน​ หมายเลขทะเบียน​ 5​ กศ.-2810 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บนถนนในสภาพด้านหน้ารถทั้ง​ 2​ คัน พังเสียหาย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ​ เพื่อนำส่ง​ รพ. ให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง​ 4​ ราย สอบสวนทราบชื่อ​ คือ​ 1. นายสุจินต์​ ศรีทับทิม​ อายุ​ 67 ปี​ อยู่บ้านเลขที่​ 49  หมู่ 4​ ต.หนองโรง​ อ.พรมทวน​ จ.กาญจนบุรี​ 2. น.ส.วันฎา​ ศรีืัทับทิม​ อายุ​ 24​ ปี​ อยู่บ้านเดียวกันกับนายสุจินต์​ ศรีทับทิม​ 3. นางระอา​ ษรีทับทิม​ อายุ​ 68 ปี​ อยู่บ้านเดียวกันกับ นายสุจินต์​ ซึ่งร่างถูกอัดก็อบปี้ติดอยู่ด้านหน้ารถ​ ขาทั้ง​ 2​ ข้าง หักผิดรูป​ ส่วนคนสุดท้ายชื่อ​ น.ส.เกวลี​ วิเศษสิงห์​ อายุ​ 15​ ปี​ ไม่ทราบที่อยู่

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งจากทาง​ รพ.​ ว่า นางระอา​ ศรีทับทิม​ ซึ่งอาการสาหัส​ แพทย์ได้ทำการช่วยเหลือปั้มหัวใจอย่างเร่งด่วน​ แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในแล้ว​ จึงเดินทางไปทำการชันสูตรพลิกศพ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า​ รถยนต์เก๋งโตโยต้ายาริสวิ่งจาก​ ต.หนองโรง​ เพื่อไปทำธุระที่​ อ.กำแพงแสน​ จ.นครปฐม​ ส่วนรถยนต์เก๋งฮอนด้า​ วิ่งจาก​ อ.กำแพงแสน​ จ.นครปฐม​ มุ่งหน้าจะไปทำธุระที่​ อ​.พนมทวน​ จ.กาญจนบุรี​ เมื่อรถทั้ง​  2​ คัน​ วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุบนถนนทั้งสายไม่มีเกาะกลางถนน​ มีเพียงเส้นสีเหลืองแบ่งเลนถนนเท่านั้น​ รถจึงเกิดพุ่งชนประสานงากันอย่างจัง​ คาดว่าต้องมีรถคันใดคันหนึ่งวิ่งกินเลนเข้าไปในช่องทางของรถอีกคันหนึ่งที่วิ่งสวนทางมาตึงทำให้เกิดพุ่งชนกันอย่างจัง​ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

 



 


 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.