วงจรปิดจับภาพชัด ! "โจรแสบ" เดินซื้อของร้านโชห่วย ก่อนฉกเงินทอดผ้าป่าจากต้น ก่อนหลบหนี
26 พ.ย. 2563, 08:49
ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมชัด ช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา บันทึกพฤติกรรมของคนร้าย เป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 35 – 40 ปี ลักษณะการแต่งการดูดี เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสีดำ สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ สีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ Honda Wave 125 i สีเทา เบาะสีแดงไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณหน้าร้านโชห่วย เลขที่ 83 หมู่ 6 ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นทำทีมาสั่งน้ำอัดลม 1 แก้ว แล้วฉวยโอกาสช่วงที่เจ้าของร้านเผลอ ฉกเงินจากพุ่มผ้าป่าที่ตั้งอยู่ในร้าน ทีละใบ 2 ใบจนเกือบหมดต้นผ้าป่า ใส่กระเป๋ากางเกง อย่างใจเย็น ไม่เกรงกลัวกล้อง ยังหันมามองกล้องแต่ก็กลับไปหยิบ จากนั้นก็ทำทีจ่ายเงินซื้อน้ำและก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ ร้านโชห่วย เลขที่ 83 หมู่ 6 ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ นายโชคอนันต์ เหลืองวิไล อายุ 38 ปี ลูกเขยเจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่าเหตุดังกล่าวเกิดตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยขณะช่วงนั้นพ่อตาอยู่ร้านคนเดียว ตนเองมาเฝ้าภรรยาผ่าตัดที่โรงพยาบาลหลายวัน ตอนเย็นวันเกิดเหตุพ่อตาโทรมาบอกว่าเงินในถังผ้าป่า ของสมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา ที่มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญไว้หายไป ให้มาเปิดกล้องวงจรปิดให้ดูหน่อย แต่ขณะนั้นตนเองยังเฝ้าภรรยาอยู่ จึงไม่ได้มา ซึ่งวันนี้ช่วงเย็นกลับมาถึงก็เปิดกล้องดูจนวันนี้วันที่ 25 พฤศจิกายน ตนกลับจากโรงพยาบาลจึงมาย้อนดูกล้องวงจรปิดก็พบว่ามีชายลักษณะดังกล่าวเข้ามาฉกเงินในถังทอดผ้าป่าไปอย่างหน้าตาเฉยโดยที่ไม่เกรงกลัว ทั้งๆที่คนร้ายน่าจะเห็นกล้องวงจรที่ติดอยู่แต่ก็ยังไม่ละความพยายามฉกเงินใส่กระเป๋าอย่างใจเย็นอย่างกับเด็ดใบไม้ ทั้งๆที่พ่อตาของตนเองก็ยืนอยู่ใกล้ๆ จากนั้นเดินออกจากร้านไปที่รถ แล้วยังขับรถจักรยานยนต์กลับมา นำเงินที่ขโมยไป กลับมาซื้อของภายในร้านอีกครั้ง ซึ่งคนร้ายอาจจะคิดว่าเป็นคนแกจึงไม่เกรงกลัว แต่ถ้าเหตุการณ์วันนั้นเกิดพ่อตาจับได้ตอนนั้น พ่อตาของตนเองก็อาจจะถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายก็เป็นได้เพราะว่าขณะนั้นอยู่ร้านเพียงคนเดียวไม่มีใครอยู่ด้วย จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามจับตัวคนร้ายมาให้ได้ โดยเร็วจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับที่อื่นอีก
ด้านนายสมศักดิ์ วังแก้ว 60 ปี เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าวันนั้น มีลูกค้าเข้ามาที่ร้านเยอะ ตนเองก็ไม่ทันสังเกตว่าคนร้ายมาตอนช่วงไหนแต่ก็มาสังเกตอีกทีคือรู้สึกว่าเงินในถังผ้าป่าที่มีคนมาทำบุญไว้หายไป จึงได้โทรบอกกับลูกเขยให้เปิดกล้องวงจรปิดดูหน่อยแต่ก็ไม่ได้เปิดดูเลย เนื่องจากว่าตนเองเปิดไม่เป็นจึงต้องรอลูกเขยมาเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู ในวันนี้ เมื่อดูกล้องก็เห็น คนร้ายชัดเจนแต่ตนเองไม่คุ้นหน้า จึงเชื่อว่าไม่ใช่ลูกค้าที่เคยมา ถ้ามาบ้างก็น่าจะจำหน้าได้
อย่างไรก็ตาม นายโชคอนันต์ ได้นำหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางบาล อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางบาล ได้ทราบเรื่องแล้วและได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเก็บ หลักฐานจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน เพื่อดูลักษณะรูปพรรณสันฐานของผู้ก่อเหตุ และออกหาข่าวในพื้นที่ ทั้งนี้กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจนเชื่อว่าจะสามารถจับตัวผู้เหตุได้โดยเร็ว