หลังจากกรณีที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามการทำแนวป้องกันช้างป่า ได้เพียงวันเดียว ช้างป่าอาละวาดหนักทันมีทั้งตายและบาดเจ็บ และแนวป้องกันช้างป่าจะเสร็จสิ้นต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีเศษ และล่าสุดวันนี้ชาวบ้านศรีสวัสดิ์ ถูกช้างป่าเขตฯ สลักพระ ทำร้าย เจ็บอีก 2 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ในพื้นที่ทองผาภูมิ ช้างป่าได้ทำร้ายพระมรณภาพ ขณะที่ หน.เขตฯ เผย จุดเกิดเหตุเป็นป่าไผ่เป็นแหล่งอาหารช้าง เสี่ยงเกิดอันตราย วอนชาวบ้านอย่าเข้าไปรบกวน

 

บ่ายวันนี้ 25 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าแม่ละมุ่น ว่ามีราษฎรถูกช้างป่าทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณช่องทางเข้าป่าสรวงสุดา หมู่4 ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พิกัด 47P0519044E 1600537N ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เขตฯ ลงพื้นที่ร่วมกับชาวบ้านเพื่อตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ

 

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ เป็นหญิง 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นางจันทิมา โพธิ์ศรี และนางปัญญา แก้วมณี ชาวบ้านบ้านทุ่งนา หมู่ 4 ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ พบอาการบาดเจ็บเบื้องต้น สภาพขาหักและศีรษะแตก ก่อนจะเร่งช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากป่าส่งโรงพยาบาลท่ากระดาน เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา

 

จากการสอบถามญาติของผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองคนได้เข้าไปหาเห็ดโคนตั้งแต่ช่วงเช้า แต่เกิดโชคร้ายไปเจอกับช้างป่าเข้า เวลานั้นได้แต่ตกใจวิ่งหนีไม่ทัน จึงถูกช้างป่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

 

โดยนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เผยว่า ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน อ้างว่าเข้าไปหาเห็ดในพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ โดยได้เดินข้ามคูกันช้างเข้าไปในพื้นที่ป่าประมาณ 700-800 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นป่าไผ่ เป็นแหล่งหากินของช้าง จึงถูกช้างป่าทำร้าย โชคดีที่ไม่เสียชีวิต   

 

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการที่ราษฎรเข้าไปหาของป่าในพื้นที่ป่า เป็นการรบกวนแหล่งอาหารของช้าง โดยบริเวณดังกล่าวมีช้างป่าวนเวียนหากินอยู่ประมาณ 2-3 โขลง ขณะที่ทางเขตฯ ได้มีการติดตั้งรั้วไฟฟ้า และทำคูกันช้างข้ามไว้ แต่ชาวบ้านก็ยังมุดรั้วและข้ามคูเข้าไป ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าในเขตฯ ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต 2 รายด้วยกัน ดังนั้นจึงอยากเตือนชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่า จะต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากช้างป่าได้

 

สำหรับช้างป่าในช่วงนี้เกิดอาละวาดหนัก ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ช้างป่าก็ได้ทำร้ายพระสงฆ์ที่ได้ออกบิณฑบาตจนมรณภาพไป และมาวันนี้ในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ ช้างป่าก็ได้ทำร้ายชาวบ้านอีก 2 ราย แต่โชคดีแต่ได้รับบาดเจ็บไม่ถึงขั้นเสียชีวิต

 

ซึ่งปัญหาการแก้ไขปัญหาช้างป่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมจิตเกษม อาคารศูนย์ฝึกอบรมท่าทุ่งนา เขื่อนท่าทุ่งนา (กฟผ.)หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมเพื่อติดตามการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ของราษฎรในเขตพื้นที่ป่าและการดูแลสัตว์ป่าจังหวัดกาญจนบุรี

 

โดยมีนายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจกระทรวงฯ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)นายวิมล อึ้งพรหมบัณฑิต ผอ.ทสจ.กาญจนบุรี นายนิทรรศ เวชวินิจ ผอ. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี)นายทศพร รักจันทร์ ผอ.ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ส.บอ.3(บ้านโป่ง)นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมทั้งคณะผู้บริหารระดับสูงสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)น.ส.ปภัสร์ลภัส แดงกูล นายก อบต.ช่องสะเดา นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช้องสะเดา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และชาวตำบลช่อสะเดาเข้าร่วมประชุม

 

โดยก่อนที่คณะของนายนพดล พลเสน จะเข้าประชุมนั้น ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่ดินทำกิน รวมทั้งปัญหาช้างป่ากว่า 50 คน เดินทางมารอบรับ โดยนำป้ายที่เขียนข้อความถึงความเดือดร้อนต่างๆ มาชูให้นายนพดล ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่  ซึ่งนายนภดล ได้กล่าวทักทายประชาชนด้วยดี  พร้อมทั้งเชิญประชาชนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะปัญหาช้างป่าบุกรุกทำลายพืชผลทางการเกษตร รวมถึงช้างป่าได้ทำร้ายชาวบ้าน มีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บมาอย่างต่อเนื่อง

         

หลักจากเสร็จจากการประชุม นายนพดล พลเสน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ได้เดินทางไปที่บริเวณโรงเรียนบ้านท่าทุ่งนา เพื่อตรวจสอบแนวรั้วเหล็กกั้นช้าง ที่กำลังจะดำเนินการก่อสร้างประมาณปี 2564 เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าลงมากินพืชผลของราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณแนวกันชนติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ โดยการก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี เศษ และหลังจากที่ทางคณะได้กลับไปวันรุ่งขึ้นช้างป่าก็ได้ทำร้ายพระสงฆ์ ที่ออกบิณฑบาต จนมรณภาพไป 1 รูป และในวันนี้ก็ได้ทำร้ายชาวบ้านไปอีก 2 ราย แต่โชคดีแค่ได้รับบาดเจ็บไม่ถึงแก่ชีวิต