วันที่ 27 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท.ศักดิ์ศิษฏ์ สายปรีชา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสระบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี เข้าจับกุมนาย สมหมาย แซ่เลี้ยง อายุ 39 ปี เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุขโมยทรัพย์สิน ภายในบ้าน ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี ยังคงขับรถจักรยานยนต์วนเวียน หลบซ่อนตัว อยู่ในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเข้าตรวจค้น จากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. นายสมหมาย ได้ขี่จักรยานยนต์ ออกมาจากซอยก่อนถึงวัดโนนสภาราม จากนั้นเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยชาวบ้านได้แสดงตน เข้าตรวจสอบ ตรวจค้น เปิดใต้เบาะรถจักรยานยนต์ พบกระเป๋าใส่ ทรัพย์สินที่ขโมยไป จากบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงได้นำตัวมาสอบสวน ยัง สภ.เมืองสระบุรี จากนั้นได้นำตัวส่งยัง พ.ต.ต.นรินทร์ ไร่ไสว สว.สส.สภ.เมืองสระบุรี พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป     
 
จากการสอบถาม นายสมหมาย แซ่เลี้ยง รับสารภาพว่าทำมาหลายครั้งแล้ว หลายท้องที่ โดยกล่าวอ้างว่า เนื่องจากว่าตนเองตกงาน เพราะมีลายสักเต็มตัว ไปหาสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ ตนจึงได้ขี่จักรยานยนต์ออกตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน ซึ่งตนเองได้เข้าไปขโมยมาแล้วทั้งหมด 3 หลัง ซึ่งเมื่อวานนี้ได้เข้าไปลักทรัพย์ในบริเวณ ต.กุดนกเปล้า ซึ่งได้เข็มขัดเงินมา แต่ยังไม่ได้ทันได้เอาไปไหน มาถูกจับกุมเสียก่อน ซึ่งตนเองอยากได้โอกาสในการทำงานบ้าง จะได้ไม่ต้องออกลักขโมยเขา ซึ่งจริงแล้วก็ไม่มีไครอยากที่จะเป็นโจร แต่เมื่อมันไม่ได้โอกาสในการทำงาน จึงทำให้ตนต้องออกมาลักขโมย ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับลายสักที่ตนเองมีอยู่ 

 

นายสมหมาย เผยต่อว่า ตนเองก่อเหตุมาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุที่ อ.หนองแค ได้ทองคำมา 3 บาท ครั้งต่อมาได้พวกพระเครื่อง ซึ่งก็ขายได้ไม่กี่ร้อยบาท จนมาครั้งสุดท้ายที่ได้เข็มขัดเงินมายังไม่ทันขายก็มาถูกจับกุมก่อน

ทางด้าน ดต.กิตติพงษ์ พลเยี่ยม ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี เผยว่า นายสมหมาย มีพฤติกรรม ออกลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน ตามร้านค้า โดยอาศัยช่วงจังหวะที่ เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็จะเข้าไป งัดประตู หน้าต่าง เข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน ซึ่งบ้านสวนมากก็จะมีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ ทางเจ้าน้าที่ตำรวจก็ได้สืบสวนติดตาม จับกุมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งคนร้ายจะไม่พักเป็นหลักแหล่ง อยู่บ้านไม่นานก็จะออกไปหาอาศัยตามบ้านเพื่อนพักอาศัยหลบหนีไปเลื่อย ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้ก่อเหตุมาแล้ว 4-5 ครั้ง ตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ซึ่งคนร้ายจะก่อเหตุประมาณ เดือนละครั้ง