เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย "โรคเนื้อเน่า-แบคทีเรียกินเนื้อคน" สังเวยแล้ว 5 ชีวิต


26 ก.ค. 2562, 10:41



ผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย "โรคเนื้อเน่า-แบคทีเรียกินเนื้อคน" สังเวยแล้ว 5 ชีวิต




วันที่ 26 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายอำนวย ทิพศรีราช นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานควบคุมโรคเขต 1 ร่วมกับ นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน    นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดน่าน ร่วมกันสอบสวนการระบาดของโรคเนื้อเน่า ที่เกิดการระบาดในพื้นที่จังหวัดน่าน ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฏาคม  2562  ซึ่งขณะนี้ที่โรงพยาบาลน่าน มีผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา ยอดรวม 51 ราย  และเสียชีวิตแล้ว 5 ราย  และยังมีอาการหนักรักษาตัวในห้องฉุกเฉินไอซียู 2 ราย  โดยพบผู้ป่วยกระจาย ในทุกอำเภอ พบมากที่สุดคือพื้นที่อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอภูเพียง และ อำเภอท่าวังผา ตามลำดับ  ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและชาวนา ที่ต้องทำงานในแปลงนาข้าว นอกจากนี้ได้รับเชื้อจากการลงในงมหอย หาปลาในแม่น้ำน่านด้วย

 

 



นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ได้ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลา 5 ปีย้อนหลังตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 ถึง 2562 พบผู้ป่วยโรคเนื้อเน่าจำนวน 227 ราย โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปี ส่วนใหญ่แผลมักเกิดขึ้นที่บริเวณเท้าและข้อเท้า พบผู้ป่วยกระจายในทุกอำเภอ โดยพบมากที่อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอภูเพียง อำเภอท่าวังผา ตามลำดับ ส่วนในปีพ.ศ.2562 พบผู้ป่วยจำนวน 51 ราย  และเสียชีวิตยอดสะสม 5 ราย

 

 

 

อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่และไม่เป็นโรคติดต่อ  แต่เป็นโรคเฉพาะบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากมีบาดแผลทางผิวหนังและได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย  ขณะที่ประเด็นเรื่องสารเคมีในพื้นที่การเกษตรเป็นสาเหตุของโรคเนื้อเน่า ยังไม่มีรายงานผลการวิจัย  หรือรายงานทางวิชาการอ้างอิงได้  จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสาเหตุหลักของโรคดังกล่าว แต่สารเคมีเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง  เมื่อเกาจึงเกิดเป็นบาดแผลรอยถลอก ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้แน่นอน

 

 


 

 

โดยขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดน่าน เร่งประชุมให้ ทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ทุกพื้นที่  เตรียมพร้อมสำหรับการให้บริการล้างบาดแผล และ ให้ความรู้ ความเข้าใจ และเตือนเกษตรกร รวมถึงประชาชน ได้สังเกตอาการของโรค หากมีบาดแผล และมีอาการปวด บวมแดง อักเสบ ไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นไข้สูง ขอให้รีบไปยัง รพ.สต.ใกล้บ้าน เพื่อล้างและทำความสะอาดแผล และเข้าสู่ระบบการรักษาตั้งแต่ต้น  ในส่วนของเกษตรกรและชาวนา ที่ต้องลงแปลงนาและสัมผัสกับดินโคลนโดยตรง ขอให้ใส่ชุดป้องกัน เช่นรองเท้าบูท ถุงมือยาง และหากมีบาดแผลทางผิวหนังให้รีบล้างน้ำสะอาดและทำแผลทันที






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.