เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สิ้นแล้ว "หลวงปู่แสน" เกจิดัง 6 แผ่นดิน ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 112 ปี


26 ก.ค. 2562, 10:54



สิ้นแล้ว "หลวงปู่แสน" เกจิดัง 6 แผ่นดิน ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 112 ปี




เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ค. 62  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่วัดบ้านหนองจิก หมู่ 2  ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ   นายเสาร์   คุ้มครอง  ซึ่งเป็นลูกชายและเป็นลูกศิษย์เอกของหลวงปู่แสน   ปสันโน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ และภาคอีสาน  เปิดเผยว่า  หลวงปู่แสน  ปสันโน เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ท่านได้ละสังขารอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค. 62  ที่กุฏิภายในวัดบ้านหนองจิก  โดยมีลูกหลาน ญาติพี่น้องลูกศิษย์ ที่มาคอยเฝ้าดูแลอาการของหลวงปู่ด้วยความห่วงใยจำนวนมาก

 

 

โดยก่อนหน้านี้ หลวงปู่แสนมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะที่ 2 และป่วยด้วยโรคหัวใจ กระเพาะลำไส้ ปอดติดเชื้อ ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องและคณะศิษย์ได้นำหลวงปู่ไปเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.กันทรลักษ์ และ รพ.ศรีสะเกษมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว  ล่าสุดพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกสงฆ์อาพาธ  รพ.ศรีสะเกษ ซึ่งแพทย์พยาบาลได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ โดยแพทย์ต้องทำการดูดเสลดที่เหนียวออกมา แต่ดูดได้น้อยมาก  และไม่สามารถดูดเสลดออกมาได้  เนื่องจากว่า หลวงปู่อายุมากแล้วและร่างกายอ่อนเพลียอย่างหนัก และเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค. 62 หลวงปู่มีอาการทรุดหนักมาก หลวงปู่ได้แจ้งให้ตนและญาติพี่น้องทราบว่า จะกลับไปละสังขารที่วัดบ้านหนองจิก และให้ตนนำหลวงปู่กลับมาที่วัดบ้านหนองจิก หลังจากนำตัวหลวงปู่กลับมาถึงกุฏิวัดบ้านหนองจิกเมื่อเวลาประมาณ  18.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค. 62 หลวงปู่ยังไม่ละสังขาร แต่ว่าได้รอลูกศิษย์ ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ที่กำลังเดินทางมาหาหลวงปู่ ซึ่งเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค. 62  ซึ่งลูกศิษย์และลูกหลานญาติพี่น้องต่างพากันร่ำไห้ด้วยความอาลัยหลวงปู่  ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาให้กับลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนทั่วไปมาโดยตลอด



 

สำหรับกำหนดการพิธีการทำบุญสรีระสังขารของหลวงปู่นั้น  ขณะนี้ได้แจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงสรงน้ำสรีระสังขารของหลวงปู่  เป็นการเบื้องต้นไว้ก่อนแล้ว โดยยังไม่ได้กำหนดว่าจะจัดพิธีสรงน้ำวันใด เมื่อได้รับพระราชทานน้ำหลวงมาแล้วจึงจะกำหนดวันเวลารวมทั้งกำหนดการประกอบพิธีต่าง ๆ ด้วย  ซึ่งจะต้องรอนำไปกราบหารือกับพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเตรียมจัดพิธีทางศาสนาต่อไป  สำหรับประวัติของหลวงปู่แสน ชื่อเดิม ท่านคือ ชื่อแสน นามสกุล คุ้มครอง เกิดเมื่อขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะแม ตรงกับวันศุกร์ ที่ 11 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องร่วมมารดา รวม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 2  ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว  พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์  จ.ขุขันธ์  ปัจจุบันคือ ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เมื่อครั้งยังเด็กหลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพงและพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู  และได้บวชเณรให้หลวงปู่แสนที่วัดบ้านโพง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้ จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2471  อายุ 21 ปีได้เข้าบรรพชาอุปสมบท ที่วัดบ้านโพง ได้นิมนต์ หลวงพ่อมุม อินทปญโญ วัดปราสาทเยอ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นพระกรรมมาวาจาจารย์ ส่วนพระอุปปัชชาคือหลวงพ่อบุญมา ซึ่งอาจารย์ของหลวงพ่อมุม  วัดประสาทเยอเหนือ และระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุม อย่างต่อเนื่อง

 


หลวงปู่ได้รับการถ่ายทอดความรู้วิชาอาคมต่าง ๆ จากพระอาจารย์จนมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐานฝึกจิตให้กล้าแข็งมีสมาธิอันแน่วแน่ เพื่อเป็นพลังสื่อนำมาประกอบการใช้คาถาอาคม หลวงพ่อได้เอาใจใส่ฝึกฝนกับพระอาจารย์เจนจัดเชี่ยวชาญ จนกระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน แต่ หลังจากสึกเป็นฆราวาสแล้ว ท่านได้บวชเป็นหมอธรรม บวชกับคุณพ่อธัมญา บ้านหนองหญ้าปล้อง เป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อรักษาคน ปฏิบัติธรรม ช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย ขณะที่เป็นฆราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง จ.เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคารมเป็นนายกรัฐมนตรี  ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนวิชาอาคมมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ได้กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ตอนอายุ  90 ปี บวชที่วัดกุดเสลา ซึ่งมีเจ้าคณะตำบลเป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านบวชเป็นพระที่อยู่อย่างสมถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสลาจึงรักและศรัทธาท่านมาก เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาแม้อายุจะย่างเข้า 93 ปีท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเฉกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิกจนถึงทุกวันนี้ และท่านก็กลับมาพัฒนาวัดบ้านหนองจิก ดั่งเช่นทุกวัด ปัจจุบันท่านอายุ 112  ปี วัตถุมงคลของหลวงปู่แสน  ท่านได้รับความนิยม อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมาย จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นที่นิยม แสนนิยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.