วันที่ 29 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานข่าว ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้าเริ่มมีแสงแดดส่องจ้า หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่ไม่หนักมากนัก และยังคงส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม มีสภาวะน้ำท่วมขังขยายวงกว้างกินพื้นที่ 8 อำเภอ 29 ตำบล 111 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 5,882 ครัวเรือน รวม 25,143 คน โดยแยกเป็น 1. อำเภอจะแนะมีน้ำท่วมขัง 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน 2. ระแงะมีน้ำท่วมขัง 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 3. เจาะไอร้องมีน้ำท่วมขัง 3 ตำบล 18 หมู่บ้าน 4. บาเจาะมีน้ำท่วมขัง 4 ตำบล 10 หมู่บ้าน 5. เมืองนราธิวาสมีน้ำท่วมขัง 5 ตำบล 20 หมู่บ้าน 6. แว้งมีน้ำท่วมขัง 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน 7. ยี่งอมีน้ำท่วมขัง 6 ตำบล 42 หมู่บ้าน และ 8. สุไหงโก-ลกมีน้ำท่วมขัง 2 ตำบล 1 หมู่บ้าน 3 ชุมชน ซึ่งประชาชนทั้ง 111 หมู่บ้านยังสามารถอาศัยอยู่ที่บ้านพัก โดยมีระดับน้ำท่วมขังโดยภาพรวมสูงโดยเฉลี่ย 40 ถึง 50 ซม. โดยทางนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเรือท้องแบนไปประจำการตามหมู่บ้านที่มีสภาวะน้ำท่วมขัง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่ต้องการสัญจรไปมา เพื่อติดต่อกิจธุระกับโลกภายนอก รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการอพยพประชาชน หากมีสภาวะน้ำท่วมขังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

ส่วนกรณีแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่รองรับปริมาณน้ำท่วมขังเพื่อระบายลงสู่ทะเลนั้น ล่าสุด แม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งรองรับมวลน้ำจากต้นน้ำในพื้นที่ อ.สุคิริน และ อ.แว้ง ไหลลงมาสมทบทำให้มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากวานนี้ โดยอยู่ในระดับสูงจากตลิ่ง 70 ซม. ส่งผลทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่ง มีน้ำท่วมขัง 3 ชุมชน คือ ชุมชนท่าประปา ชุมชนหัวสะพานและชุมชนกือดาบารู เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก สูงโดยเฉลี่ย 40 ถึง 50 ซม. และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 50 ครัวเรือน โดยนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้นำเต็นท์มากางเพื่อเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมนำเรือท้องแบนและกำลังพล อส.ประจำที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก มาประจำการ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่ต้องการสัญจรไปมาเช่นกัน ส่วนแม่น้ำบางนราก็มีสภาวะน้ำล้นตลิ่งเช่นกัน โดยสูงกว่าตลิ่ง 50 ซม. แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนมากนัก เนื่องจากมวลน้ำก้อนนี้กำลังทยอยระบายจากพื้นที่ อ.จะแนะ และ อ.ระแงะ เพื่อลงสู่ทะเลปากอ่าวในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส

ด้าน พ.อ.ชนาธิป ทองเชี่ยว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 และ พ.อ.ยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ได้ร่วมสนธิกำลังพลนำถุงยังชีพ เดินทางเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและคนชรา รวมทั้งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ในพื้นที่บ้านไทย ม.3 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว