วันนี้ ( 26 ก.ค.62 ) ที่รัฐสภาชั่วคราว การแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาในวันที่สอง ช่วงบ่ายสมาชิกรัฐสภาได้เน้นอภิปรายนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยหรือไม่ โดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีมีความเป็นห่วงการใช้งบประมาณโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ว่า โครงการนี้ทำให้เกิดการปรับตัวพร้อมกับการดูแลประชาชน รวมทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและจีดีพีของประเทศ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นเกณฑ์การเป็นผู้มีรายได้น้อย นอกจากนี้พบว่าสินค้าในร้านประชารัฐจะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค ประมาณร้อยละ 51 และมากกว่าร้อยละ 40 เป็นสินค้าชุมชน ซึ่งพบว่ามาตรการนี้ทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าสินค้าอุปโภคบริโภคไม่น้อยกว่า 78,000 ล้าน และที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอีกด้วย ดังนั้นมาตรการดังกล่าวจึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง

ด้าน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะทุนสำรองที่ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน ว่า จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ส่วนที่มีการตั้งงบประมาณขาดดุลนั้น รัฐบาลได้พิจารณาจากสถานการณ์ให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้มีการมาลงทุน แต่ทั้งนี้การตั้งงบประมาณขาดดุลต้องอยู่ภายใต้วินัยการเงินการคลังด้วย และล่าสุด สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านเศรษฐกิจของไทยจากแนวโน้มมีเสถียรภาพเป็นแนวโน้มเป็นบวก ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับจากต่างประเทศ