จากกรณีมีฝนตกหนักต่อเนื่องกันอย่างน้อย 48 ชั่วโมง จนทำให้คูคลองไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ จนน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นพื้นที่วงกว้าง อาทิ พื้นที่ หมู่ 4 ต.ขุนทะล อ.เมือง ได้มีมวลน้ำจากพื้นที่เขาม้ารุก อ.กาญจนดิษฐ์ เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ในตำบลทุ่งรัง ทำให้บ้านของนายชัยชนะ เย็นกาย อายุ 53 ปี บ้าน ลขที่64/28 หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งรัง ซึ่งพักอาศัยกันรวม 5 คน ถูกน้ำกัดเซาะจนพังลงมาทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในบ้าน  ซึ่งฝ่ายปกครอง นำโดยนายวิชวุทย์ จินโต ผวจและป้องกันภัยจังหวัด กู้ภัย ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและขนย้ายสิ่งของ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่สี่ตำบลขุนทะเลกว่า 20 รายไปอยู่บ้านญาติเนื่องจากถูกน้ำท่วมไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ขณะที่ในพื้นที่ บ้านบางเมาะ อ.วิภาวดี ได้เกิดเหตุดินสไลด์ปิดทับเส้นทางภายในหมู่บ้านจนไม่สามารถใช้เส้นทางได้ มีชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 20 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเดินทางข้าออกได้

นอกจากนี้ในพื้นที่ ม.5 บ้านไสขรบ ถ.เคียนซา-พระแสง ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ได้เกิดฝนตกหนัก มีเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มขวางถนนจำนวน 13 ต้น ทางการไฟฟ้าสาขาพระแสง เร่งซ่อมแซม เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านได้ใช้เร็วที่สุด

 

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานีได้มีคำสั่งไปยังนายอำเภอทุกพื้นที่ประสานกำนันผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครให้เฝ้าระวังและคอยช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของ โดยล่าสุด พบว่าในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานียังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 147 มม.โดยในขณะนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีน้ำท่วมขังแล้วรวม 11 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอเมือง วิภาวดี ท่าฉาง ไชยา ดอนสักกาญจนดิษฐ์ พุนพิน เคียนซา นาสารบ้านนาเดิม และ อ.เวียงสระ