นายกฯ มอบรางวัล DG Awards 2020 เดินหน้าใช้ดิจิทัลแก้ความยากจน
3 ธ.ค. 2563, 16:47
วันนี้ (3 ธ.ค. 63) เวลา 09.30 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัล DG Awards 2020 (รางวัลรัฐบาลดิจิทัลประจำปี 2563) โดยนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานวัตถุประสงค์ของการมอบรางวัลเพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐเห็นความสำคัญและประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยมีนายดิสทัตย์ โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการยกระดับการบริหารจัดการและการบูรณาการข้อมูลภาครัฐ ด้วยการใช้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ เพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการให้บริการและเข้าถึงของประชาชน เปิดเผยข้อมูลภาครัฐต่อสาธารณชนและสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ส่งผลไทยได้รับการจัดอันดับดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปี 2563 (E-Government Development Index: EGDI 2020) โดยองค์การสหประชาชาติ ปรับขึ้นอยู่อันดับที่ 57 เป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อการทำงานของภาครัฐ ดังนั้น ภารกิจหนึ่งของรัฐบาลดิจิทัล คือ ส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูล รับฟังความคิดเห็น รวมไปถึงการร่วมกันกำหนดนโยบายภาครัฐ จึงส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐจัดทำข้อมูลเปิดในรูปแบบมาตรฐานเดียวกัน ให้เปิดเผยข้อมูลภาครัฐผ่านศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ยึดหลักการ “เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น” เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเสรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และร่วมตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐด้วย
ทั้งนี้ สถานการณ์ COVID-19 ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่เป็นแรงส่งในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล บังคับให้หน่วยงานภาครัฐต้องทำงานผ่านระบบดิจิทัล หลายหน่วยงานทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ประชุมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการประชาชนเป็นแบบออนไลน์ได้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หน่วยงานภาครัฐไทยมีความพร้อมที่จะทำงานผ่านระบบดิจิทัลได้อย่างแน่นอน และในปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการตราพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 ที่มีการกำหนดให้จัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐทราบกรอบและทิศทางการบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยหวังให้เกิดการเปลี่ยนผ่านหน่วยงานภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล สู่เป้าหมายประเทศ 4 ด้าน คือ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการและสวัสดิการของประชาชน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย สนับสนุนให้เกิดการอำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึงสตาร์ทอัพ วิสาหกิจชุมชนที่ต้องร่วมขับเคลื่อนด้วย ภาครัฐมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาบริการของภาครัฐและกำหนดนโยบายสำคัญของประเทศ เสนอประเด็นการพัฒนาประเทศผ่านช่องทางดิจิทัล
โดยช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ในช่วงโควิด-19 หากไม่มีการเตรียมการไว้ก่อน วันนี้คงแก้ไขไม่ได้ แต่เพราะมีการเตรียมการและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อาทิ การทำธุรกรรมต่างๆ การออกพาสปอร์ต ที่ใช้ระบบออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวก สอดคล้องกับมาตรการปรับการท่องเที่ยวไม่ให้ผลกระทบมากนัก เกิดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพ รวมทั้งการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ทั้งในส่วนของภาครัฐ และในภาคส่วนอื่นๆ ที่ต้องเชื่อมโยงกัน ใช้ระบบคลาวด์กลางภาครัฐในการเก็บข้อมูล เปิดเผยได้ ลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการรวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลให้แก่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ประกอบด้วย การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และกรมสรรพากร และเยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานของผู้ได้รับรางวัลด้วย