คืบหน้า!! คดีรวบ 44 ต่างด้าว ลักลอบเข้าเมือง นายหน้าลอยแพหิวโซกลางป่าโกงกาง
26 ก.ค. 2562, 17:49
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์ ศพดส.ตร. เข้าช่วยเหลือต่างด้าวที่ถูกกลุ่มนายหน้าค้ามนุษย์ข้ามชาติพาลักลอบจากประเทศเมียนมาเข้ามาในไทย ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.62 โดยกำลังเจ้าหน้าที่พบต่างด้าวทั้งเด็กและผู้หญิง ถูกกักตัวอยู่ในป่าชายเลน หลังโดนนำมากักตัวไว้ในป่าโกงกางในพื้นที่อำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง 6 วัน 6 คืน เพื่อเตรียมจะลักลอบส่งตัวไปขายยังประเทศที่ 3 โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรย เนื่องจากได้กินข้าวเพียงวันละ1 ครั้ง และน้ำไม่มีดื่ม โดยจากการสอบสวนต่างด้าวทั้ง 44 คน ในเบื้องต้นได้เล่าให้ฟังว่าได้ถูกนายหน้าชาวเมียนมาด้วยกันหลอกว่าจะพาไปหางานทำที่ประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายเงินค่าเดินทางจำนวนมากต่อ 1 คน ในการพาข้ามมายังฝั่งไทย โดยได้มากับเรือของนายหน้าคนไทยมาขึ้นฝั่งที่ป่าโกงกางในพื้นที่อำเภอสุขสำราญ และถูกทิ้งไว้กับคนดูแลซึ่งเป็นชาวเมียนมาด้วยกันเป็นเวลา 6 วัน จนเจ้าหน้าที่มาพบ โดยระหว่างที่อยู่ในป่าโกงกาง จะได้กินข้าวเพียงวันละ 1 กำปั้นเท่านั้น อีกทั้งน้ำที่จะดื่มก็ไม่มี และหากส่งเสียงดังก็จะถูกคนดูแลเอาหนังสติ๊กยิงใส่
ล่าสุดวันนี้ 26 ก.ค. 62 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์ ศพดส.ตร. ได้ลงพื้นที่ดูแลการสืบสวนด้วยตัวเอง โดยมี พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ ผบก.ภ.จว.ระนอง และ พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.ตม.จว.ระนอง พร้อมด้วย ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และองค์กรระหว่างประเทศ ร่วมกันกำหนดแนวทางการสืบสวนขยายผล และประสานหาทางช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ทั้ง 44 ราย อีกทั้งวางมาตรการในการสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบค้ามนุษย์ในเขตพื้นที่จังหวัดระนองอย่างเข้มข้นต่อไปหลังจากนี้ โดยในเบื้องต้นจะได้ทำการสอบสวนและเช็คประวัติเพื่อคัดกรองต่างด้าวทั้ง 44 คน แบบตัวต่อตัว เพื่อขยายผลไปสู่การจับกุมผู้นำพา หรือนายหน้า มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เนื่องมาจากว่า ทางตำรวจ สภ.คลองแงะ ได้มีการจับกุมคนต่างด้าวจำนวน 62 คน พร้อมด้วยผู้นำพา และจากการคัดแยกเหยื่อและการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ทำให้ได้ทราบว่า มีการหน่วงเหนี่ยวกักขังและแสวงหาประโยชน์และมีผู้นำพาบางรายได้ทำการข่มขืนเหยื่อในพื้นที่ของ สภ.คลองแงะ หลังจากนั้นเราได้ทำการขยายผลและนำผู้ต้องหาที่เป็นผู้นำพาทำการสอบสวนจึงทราบว่า ได้มีการลอบเข้าเมืองทางด้านไหน จึงได้นำผู้ต้องหาเพื่อนำชี้ในจุดที่ลักลอบเข้ามา ระหว่างที่นำชี้ ได้พบคนต่างด้าวที่ได้เข้าเมืองมาจำนวน 40 คน ในพื้นที่ของอำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง จึงได้ประสานงานร่วมกันระหว่างตำรวจในพื้นที่ ทหารในพื้นที่ และฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์ในการสอบสวนคัดแยกเหยื่อ ว่าจะเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์หรือไม่
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการคัดแยกเหยื่อ 40 คน ที่ระนอง จะเป็นตามแผนบูรณาการ ซึ่งจะมีทั้งตำรวจอัยการ ภม. และสหวิชาชีพ จะบูรณาการร่วมกันในการคัดแยกเหยื่อว่าจะเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์หรือไม่ ในวันนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นหรือไม่เป็น ส่วนแนวทางในการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ทางตำรวจภูธรจังหวัดระนอง หัวหน้าตำรวจของจังหวัดเกาะสองได้มีการประสานความร่วมมือกันในเรื่องความร่วมมือทางอาญาทั้งในส่วนของตำรวจและอัยการทางระนองและทางเกาะสอง โดยได้มีกระบวนการที่ร่วมมือกันมาก่อนหน้านี้แล้ว และในช่วงนี้เป็นการกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคดีค้ามนุษย์ในอนาคต สำหรับการป้องกันได้สั่งการในที่ประชุมในส่วนของตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจน้ำ และทางเจ้าหน้าที่ทหารรวมทั้งฝ่ายปกครองได้ร่วมมือกันในการสร้างจุดสกัด เช่น ทางทหาร ได้กำชับตั้งแต่บริเวณแนวชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ให้สกัดกั้นกระบวนการนำพาโดยทางเรือและเดินเท้า การตั้งด่านตรวจค้นยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้ รถกระบะ หรือรถทัวร์ที่ผู้ลักลอบขนแรงงานมักจะใช้ในการขนต่างด้าวเหล่านี้ ได้ร่วมมือกันในการตั้งจุดสกัดไม่ให้มีการลักลอบเช่นนี้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องเพิ่มความเข้มงวดเพราะคนที่จะพยายามทำความผิดก็พยายามหาช่องทางจึงอาจมีบางครั้งที่เล็ดลอดมาได้ เจ้าหน้าที่ของเราก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ทุกภาคส่วน ในส่วนของการดำเนินคดีเราได้ประสานกับทางอัยการในทุกขั้นตอนในการกลั่นกรองวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ให้เกิดความรอบคอบ และหารือแนวทางในการพิจารณาสะสางคดีให้แก่ชั้นพนักงานสอบสวนเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าและความไม่สมบูรณ์ของสำนวน และทางอัยการได้มีเวลาในการพิจารณาคดีได้รอบคอบขึ้น