ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี เผาทำลายกัญชาปนเปื้อนสารเคมีกว่า 542 กก.
4 ธ.ค. 2563, 11:52
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 4 ธันวาคม 2563 ที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มอบหมายให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส เป็นประธานการเผาทำลายยาเสพติดกัญชาของกลางปนเปื้อนสารเคมี ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ กว่า 542 กิโลกรัม พร้อมนำนักวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ตัวอย่างของกลางดังกล่าว โดยมี นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุสิก ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 พ.ต.อ.อนุราช จิตศิล รอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานภาคี ร่วมเป็นสักขีพยานในการเผาทำลาย
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส กล่าวว่า กัญชาที่นำมาเผาในครั้งนี้ ที่สำนักงาน ป.ป.ส ขออนุญาตครอบครอง ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ ประกอบกับไม่มีผู้ขอไปทำการศึกษาวิจัย เนื่องจากมีสารปนเปื้อน ทั้งมีสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและโลหะหนักเกินคำมาตรฐาน อีกทั้งยังมีเชื้อรา กัญชาที่นำมาเผาครั้งนี้เป็นการเผากัญชาส่วนสุดท้ายจากที่ขออนุญาติครอบครองกัญชาของกลางไว้ใช้ประโยชน์จากทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2562 มีจำนวน 542 กิโลกรัม แบ่งเป็นกัญชาแห้ง 541 แท่ง และเหล็ดกัญชา 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้เผาทำลายกัญชาของกลางแล้ว 2 ครั้ง ในเดือนธันวาคม 2562 และเดือนมิถุนายน 2563 รวมกัญชาที่เผาทำลายทั้งหมดกว่า 14 ตัน ส่วนการเผาทำลายกัญชาจะใช้ระบบการเผาแบบปิดด้วยเตาเผาไนโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายรัฐบาลได้มีการผ่อนปรนให้มีการใช้ประโยชน์กัญชา ทั้งในแง่ของการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนา และการผลิตยาเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้
โดยกัญชา ป.ป.ส.ได้สนับสนุนแก่หน่วยงานต่างๆจำนวน 3.8 ตัน นั้นได้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆเช่น คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาวิจัย เพื่อนำมาพัฒนายาต้นแบบใช้ในการรักษาผู้ป่วย และสามารถพัฒนาวิถีการสกัดสารสำคัญจากกัญชาด้วยการใช้สารอินทรีย์/น้ำมันพืช/คาร์บอนไดออกไซด์ได้ หรือโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์และกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำกัญชาดังกล่าวไปผลิตน้ำมันกัญชาสำหรับผู้ป่วยได้รวมจำนวน 856,000 ขวด
รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคต การขอรับการสนับสนุนกัญชาขอเพื่อการศึกษาวิจัยและใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ จะสามารถติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานที่เป็นเจ้าของของกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านสำนักงาน ป.ป.ส. อีกต่อไป โดยสำนักงาน ป.ป.ส. และกรมวิทยาศาสตร์เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลด้านการตรวจพิสูจน์ทั้งปริมาณสารสำคัญและสารปนเปื้อนก่อนแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ไปให้หน่วยงานที่เก็บรักษา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการสนับสนุนกัญชาของกลางต่อไป ทั้งนี้หากต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับยเสพติด หรือการนำผู้ป่วยจากการติดยเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาสามารถติดต่อ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง