เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 ธ.ค. 63 น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ประเสริฐ  สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษสิชล, นายอำเภอสิชลและผกก.สภ.สิชล และคณะ ปภ.พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ขึ้น ฮ.ของกองทัพภาค 4 บินขึ้นสำรวจสภาพความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆของ อ.สิชล อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช  โดยเฉพาะบริเวณ ต.เทพราช ต.เปลี่ยน ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล ที่บริเวณคลองเผียน คลองท่าทน มีร่องรอยเส้นทางขาดและสะพานขาดหลายจุด และพบเส้นทางน้ำป่าไหลหลากลงมาด้านล่างเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งจนท.จะได้สำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป

จากนั้นคณะได้บินขึ้นไปบนเขาห้วยแก้ว หมู่ 3 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พบชาวบ้านที่อาศัยบริเวณหุบเขาดังกล่าวจำนวน50ครัวเรือน ถูกน้ำป่าพัดเส้นทางขาด3จุด ตัดขาดจากเส้นทางภายนอกไม่สามารถออกมาได้นอกได้เนื่องจากเส้นทางออกสู่ภายนอกถูกตัดขาดและไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่ง จนท.ได้นัดหมายชาวบ้านทั้ง50ครัวเรือขึ้นไปเขาเพื่อรอรับแจกของถุงยังชีพช่วยเหลือในเบื้องต้น และเมื่อฮ.บินไปถึงได้บินลงที่บริเวณลานฮ.ชั่วคราวบนเขาแก้ว ก่อนนำสิ่งของถุงยังชีพกว่า50ชุดแจกช่วยเหลือราษฎรก่อนในเบื้องต้นก่อนบินกลับมาเพื่อวางแผนช่วยเหลือซ่อมแซมถนนและสะพานขาดโดยเร็วต่อไป

 

 

ขณะที่เมื่อเวลา 13.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบศพเด็กจมน้ำเสียที่128/6 หมู่ 2 ถนนเทิดพระเกียรติ ต.ท่าซัก อ.เมือง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ ที่เกิดเหตุริมถนนพบศพ ด.ญ.วรรฤดี ลักษณา อายุ 4 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 128/6 หมู่ 2 ต.ท่าซัก อ.เมือง จมน้ำน้ำท่วมลึกประมาณ 2 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำศพขึ้นจากน้ำเพื่อชันสูตรพลิกศพ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติๆ ถึงกับเป็นลมล้มพับ ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป สอบถามญาติ ทราบว่า บ้าน ของ ด.ญ.วรรฤดี เป็นบ้านยกเสาสูง ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร คาดว่าระหว่างเด็กหญิงอยู่ในบ้านออาจตกพลัดจากบ้านจมน้ำคนในบ้านไม่เห็น