วันนี้ ( 26 ก.ค.62 ) ที่รัฐสภาชั่วคราว พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในนโยบายด้านความมั่นคงเรื่องงบประมาณการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ว่าการใช้จ่ายของกระทรวงกลาโหม แบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศซึ่งยุทโธปกรณ์ที่ใช้อยู่ขณะนี้ใช้มานาน 20-30 ปี จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง 

        ทั้งนี้มีแผนการจัดหายุทโธปกรณ์อย่างชัดเจน รวมทั้งมีการพัฒนาเรื่องการใช้งบประมาณเป็นเรื่องของเหล่าทัพที่จะพิจารณายุโธปกรณ์ต่างๆ มาให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาอีกครั้ง 

        ยืนยันการทำงานทั้งหมดมีการทำงานร่วมกัน ส่วนคำพูดกรณีเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญของชาวจีน จนทำให้เกิดความไม่พอใจนั้น ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ตนเองได้อธิบายเรื่องดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว และไม่เคยคุมเรื่องการท่องเที่ยว

        ขณะที่ พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ยุทโธปกรณ์มีอายุการใช้งานมาก และการจัดหาก็เป็นไปตามแผนงาน พร้อมคัดเลือกคณะกรรมการมาคัดแบบที่เหมาะสม เป็นไปอย่างโปร่งใส ส่วนเรื่องเรือดำน้ำนั้น เป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ซึ่งผลประโยชน์ทางทะเล และในหลายประเทศมีการจัดหาเรือดำน้ำมานานแล้ว ซึ่งตามขั้นตอนการจัดเรือดำน้ำไม่สามารถได้ทันที แต่ละลำต้องรอนานถึง 6 ปี เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคง