วันนี้ ( 26 ก.ค.62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ พ.ต.ท.วทัญญู ขาวมหาไชย สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี แถลงข่าวจับกุม นายเอ นามสมมติ อายุ 15 ปี ชาวอำเภอเมือง จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเรา อนาจาร และทำร้ายร่างกาย” พร้อมของกลางรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กฉ 6088 หนองคาย เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ถ.รอบเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี
 

 

ตร.เผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก วานนี้ (25 ก.ค.) นางน้อย นามสมมติ อายุ 49 ปี ชาวอำเภอเมืองอุดรธานี นำ น.ส.บี นามสมมติ อายุ 19 ปี ลูกสาว เข้าพบ พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่ม กรณี น.ส.บี นักศึกษาชั้นปี 1 สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ขี่รถกลับจากซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ บ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว เพื่อกลับบ้าน แต่ถูกคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 18-20 ปี ขี่รถ จยย.ตามประกบถีบล้มบาดเจ็บ ก่อนลงมือบังคับข่มขืนกลางถนน โชคดีที่ชาวบ้านขี่รถผ่านมา ทำให้คนร้ายตกใจขี่รถหลบหนีไป โดย นางน้อย ได้พาลูกสาวมาแจ้งความกับทางตำรวจ ให้จับกุมคนร้าย เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งความ ตำรวจได้ส่งตัว น.ส.บี ไปตรวจหาร่องรอยถูกข่มขืนที่โรงพยาบาล พร้อมออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านสะดวกซื้อ และเส้นทางที่คนร้ายขี่รถหลบหนี ที่กล้องสามารถจับภาพคนร้ายได้ จึงได้นำภาพมาให้ผู้เสียหายดู และยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายผู้หญิงอีก 4 คน เข้าแจ้งความว่า ถูกคนร้ายเป็นชายขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามประกบถีบรถจนล้มได้รับบาดเจ็บ

เมื่อตรวจประวัติผู้มีพฤติกรรมกระทำผิดทางเพศ พบว่า นายเอ นามสมมติ อายุ 15 ปี เคยก่อเหตุขี่รถประกบบังคับข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุ 12 ปี เมื่อ 2 ปีก่อน สอบถามแม่นายเอ แจ้งว่านายเอ ที่ทำงานอยู่ที่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง พร้อมรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน เมื่อพบตำรวจนายเอ ถึงกับตกใจ หน้าซีด จึงนำตัวมาทำการสอบสวน ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง และบอกอีกว่า เคยถูกจับข้อหาข่มขืนเมื่อ 2 ปีก่อน และแพทย์ตรวจพบว่านายเอ ป่วยสมาธิสั้น จึงถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.นครปฐม 6 เดือน และรับยามากินตลอดเพื่อรักษาโรค เมื่อหายจะได้กลับไปรับโทษ ขณะนี้ยังกินยารักษาตัว และไปสมัครทำงานที่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง โดยนำยารักษาโรคสมาธิสั้นไปกินด้วย

ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันที่ 17 กรกฎาคม ก่อนไปทำงาน นายเอ ไม่ได้กินยา จึงมีอาการหงุดหงิด ไม่นิ่ง และมีอารมณ์ทางเพศ จึงได้ขี่รถ จยย.ตระเวนไปเรื่อย และได้จับหน้าอกผู้หญิงสาวที่บ้านดอนหัน ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี จากนั้นก็เข้าไปทำงาน กระทั่งเวลา 11.00 น. ได้ขี่รถออกจากบริษัทขนส่งไปทางบ้านสามพร้าว พบ น.ส.บี ออกจากร้านสะดวกซื้อ จึงขี่รถตามไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงซอยเปลี่ยว จึงเข้าประกบถีบรถล้ม และลงไปข่มขืนกลางถนน แต่ยังไม่สำเร็จความใคร่ มีชาวบ้านผ่านมา จึงหลบหนีไปทำงาน จากนั้นวันที่ 22 กรกฎาคม ได้ก่อเหตุอีก 2 ครั้ง ขี่รถตามจับเป้ากางเกง และถีบรถหวังข่มขืน แต่ผู้เสียหายวิ่งหลบหนีไปได้

หลังนายเอ รับสารภาพ ได้ควบคุมตัวไปตรวจค้นบ้านเพื่อตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ผู้ต้องหา ถือว่าเป็นผู้ป่วย อยู่ในระหว่างรอการกำหนดโทษ ให้ไปรักษาอาการป่วย จนกว่าจะหาย จึงกลับมารับโทษ แต่ผู้ต้องหายังกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก เมื่อไม่ได้กินยา ก็จะไปก่อเหตุอีก แต่จะไม่ก่อเหตุกับญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก แต่จะก่อเหตุอนาจาร ข่มขืนกับคนแปลกหน้าที่พบเห็น ขณะที่เกิดอารมณ์ทางเพศจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เมื่อกระทำเสร็จจึงจะรู้สึกผิด ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อผู้หญิงอย่างมาก ต้องให้อยู่ในความดูแลของพ่อแม่ ผู้ปกครอง อย่าให้ขาดยา และอยู่ในการรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด หลังจากนี้จะให้ทางสหวิชาชีพทำการสอบปากคำ เพื่อดำเนินการต่อไป