ผู้สื่อข่าว ONB news ลงสำรวจกระแสน้ำที่จุดพนังกั้นน้ำ ม.1 และ ม.2 ต.หนองตรุด โดยเฉพาะจุดประตูระบายน้ำคลองลัดชลประทาน พบว่ามีกระแสน้ำสีขุ่นไหลเชี่ยวกรากทะลักเข้าในพื้นที่ ต.หนองตรุด ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ โดยได้มีชาวบ้านต่างแวะเวียนมาดูสถานการณ์พร้อมบอกว่า หากไม่มีคลองลัดสายดังกล่าวนี้พื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะ ต.นาท่ามใต้ ต.นาตาล่วง คงจะมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่านี้มาก และในขณะที่บริเวณพนังกั้นน้ำ ม.1 และ ม.2 ชาวบ้านได้นำ สัตว์เลี้ยง วัว และได้ขนข้าวของต่างๆ ภายในบ้านขึ้นไว้ที่สูงอย่างต่อเนื่อง และคุณตาพิศ ชุมดี อายุ 82 ปี บ้านเลขที่ 114/1 ม.1 ต.หนองตรุด อ.เมือง ได้เลี้ยงวัวไว้จำนวน 8 ตัว ได้พาหนีน้ำท่วมขึ้นไปไว้บนที่สูงจะได้ออกมาตัดหญ้าเพื่อนำเอาไปให้วัวกิน ประสบปัญหาน้ำท่วมหญ้าวัวไม่สามารถกินเองได้ ตนเองจึงต้องออกไปหาหญ้ามาให้วัวกินแทน ซึ่งหาหญ้าได้ค่อนข้างลำบากเพราะมีน้ำท่วม ถึงต้องไปตัดหญ้าไกลถึงตำบลนาตาล่วง แต่ก็มีหญ้าไม่เพียงพอ เพราะมีคนอื่นมาหาให้วัวกินด้วย และตอนนี้ตนเองก็หวั่นว่าน้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้น กลัวจะท่วมถึงที่นำวัวไปไว้จะทำให้วัวถูกน้ำท่วมตายมากกว่า

 

 

นอกจากนี้พบว่าที่บ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.หนองตรุด อ.เมือง มีน้ำท่วมเข้าในบ้านที่บริเวณชั้น 1 ระดับน้ำสูงเกือบ1 เมตร ทำให้ชาวบ้านต้องพายเรือกันเข้าบ้านด้วยการปีนเสาขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 เพื่อเข้า-ออกจากบ้าน และในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวก็ได้เห็นลูกงูเห่ายาวประมาณ 60 เซนติเมตร ตกใจรถยนต์ที่วิ่งผ่านได้แผ่แม่เบี้ย ขณะกำลังเลื้อยอพยพหนีน้ำข้ามถนน

 

 

ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ ม.5 และ ม.9 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง พบว่ายังมีปริมาณน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ว่า 40 หลังคาเรือน และ เส้นทางถูกน้ำท่วมระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ต้องถูกตัดขาดทำให้ประชาชนบางส่วนต้องติดเกาะไปไหนไม่ได้ต้องใช้เรือเพียงเดียวเท่านั้น ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องอพยพมาอาศัยที่จุดอพยพและบ้านญาติเพื่อความปลอดภัย