วันนี้ (8 ธันวาคม 2562 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่อนุสาวรีย์วีรไทย ( ยุวชนทหาร ) บริเวณสะพานท่านางสังข์ ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และยุวชนทหาร ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรไทย (ยุวชนทหาร) เพื่อระลึกถึงวีรกรรมของยุวชนทหาร และผู้บังคับบัญชาที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องอธิปไตยในสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปี ชาวจังหวัดชุมพรได้ยึดถือเป็น "วันวีรไทย" หรือ "วันยุวชนทหาร" สดุดียกย่องในความกล้าหาญของยุวชนทหาร ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อ และชีวิตปกป้องผืนแผ่นดินของจังหวัดชุมพร ให้สืบทอดแก่บรรพชนรุ่นหลังจนมาถึงทุกวันนี้

นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 ซึ่งชาวจังหวัดชุมพร และคนไทยทั้งชาติจะต้องจดจำ และจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย เมื่อครั้งเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่ง ได้สู้รบปะทะกองกำลังของฝ่ายไทยอันประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และยุวชนทหาร ณ บริเวณสะพานท่านางสังข์ ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

 

 

ในการปะทะกันครั้งนั้น จังหวัดชุมพร ต้องสูญเสียเวลาชนคนกล้าหาญ ได้แก่ พันโท ถวิล นิยมเสน ซึ่งเป็นครูฝึกยุวชนทหาร ทำหน้าที่บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย การสูญเสียดังกล่าวนับเป็นวีรกรรมที่ชาวจังหวัดชุมพร และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ สมควรแก่การยกย่องสดุดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกคนได้เสียสละชีวิต และเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยความรักชาติ ความสามัคคี และความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และพวกเราทุกคนจะต้องจดจำนำมาเป็นแบบอย่าง ตลอดจนถ่ายทอดให้ลูกหลาน และเยาวชนได้รับทราบด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับวีรกรรมยุวชนทหาร เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 เวลาดึกสงัดประมาณ 02.00 น. ได้มีทหารญี่ปุ่นกำลังประมาณ 1 กรม ยกพลขึ้นบกที่อ่าวบ้านคอสน ตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ซึ่งอยู่ห่างอนุสาวรีย์แห่งนี้ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ทางทหารญี่ปุ่นติดเลนลึกขึ้นฝั่งไม่ได้ ตามเวลาที่กำหนด จึงเสียเวลาไปมาก ทำให้รวมพลกันได้ประมาณ 06.00 น. แล้วเคลื่อนกำลังมุ่งเข้าตัวเมืองชุมพร ฝ่ายไทยเราพอทราบข่าว ก็ส่งกำลังตำรวจประมาณ 2 หมวด เคลื่อนที่มายึดเชิงสะพานท่านางสังข์ ขณะนั้น มีทหารญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งเคลื่อนเข้ามาใกล้สะพานฝั่งตรงข้าม จึงเกิดยิงกันขึ้นประปราย ก่อนกำลังรบหน่วยที่ 2 เป็นเด็กนักเรียนเรียกว่า "ยุวชนทหาร" จำนวน 30 คน ออกจากตัวเมืองชุมพรมายึดคอสะพานฝั่งนี้ไว้ แล้วเคลื่อนข้ามไปยังคอสะพานฝั่งตรงข้าม จัดรูปขบวนเข้ารบทันที กำลังลบหน่วยที่ 3 เป็นทหารจากกองพันทหารราบที่ 38 ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าค่ายเขตอุดมศักดิ์ มีกำลังเพียง 3 หมู่ แต่จัดเป็นหมู่ปืนกลแบบเต็มอัตรา เคลื่อนที่ด้วยรถยนต์สงครามพุ่งข้ามสะพานท่านางสังข์ ผ่ากลุ่มทหารญี่ปุ่นลงบางส่วนไปจนถึงวัดท่ายางกลาง เห็นทหารญี่ปุ่นจำนวนมากอยู่ที่วัดท่ายางใต้ จึงลงจากรถยนต์จัดหมู่เข้ารบ ระดมยิงด้วยปืนกลเบาไม่ให้ข้าศึกทันตั้งตัว กำลังรบทั้ง 3 หน่วยดังกล่าว รบติดพันทหารญี่ปุ่นตั้งแต่เช้าจนเที่ยงวัน จึงได้รับคำสั่งจากรัฐบาลให้ปล่อยทหารญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไปเมียนมา

เพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรมของยุวชนทหารเหล่านั้น จังหวัดชุมพรจึงได้จัดพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์ยุวชนทหาร ในวันที่ 8 ธันวาคม ของทุกปี ณ อนุสาวรีย์ยุวชนทหาร บริเวณท่านางสังข์ ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร