ชื่นชม เหล่าฮีโร่ รวมพลังสยบชายคลั่งไล่แทงชาวบ้าน มอบรางวัลทำความดี
8 ธ.ค. 2563, 18:30
วันนี้ (8 ธ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายอิธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31ปี หรือ “แจ๊ค” ไอ้หนุ่มคลั่ง ขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะขี่รถกลับได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดแหลมไล่แทงผู้หญิงและเด็กเสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 6 ราย ก่อนถูกตำรวจและอาสากู้ภัยจำนวนมากล้อมจับได้พร้อมมีดปลายแหลม แต่ให้การไม่รู้เรื่องวกไปวนมา อ้างเสพยาบ้ามา 2 เม็ด และเคยป่วยจิตเวช ก่อนตำรวจนำไปตรวจหาสาเสพติดและตรวจสภาพจิต และแจ้งข้อหาหนัก “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,พยายามฆ่าและพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ” เหตุเกิดบ่ายวันที่ 5 ธันวาคม สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวไทยไปทั่วประเทศ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายคนชื่นชมฮีโร่ที่ช่วยกันสยบไอ้คลั่งก่อนจะไปก่อเหตุฆ่าคนตายอีกหนึ่งในนั้นคือนายประสิทธิ์ น้อยจุฬา อายุ 30ปี หนุ่มแกร็บส่งอาหารชาวอุดรธานี นายประสิทธิ์ หรือ “แจ๊ค” เปิดเผยว่า วันนั้นตนเองขับรถไปตามถนนหลังส่งออเดอร์อาหารกลับมา เห็นเฮียน้อยร้องตะโกนให้คนช่วยจากนั้นก็มีรถจยย.ของน้องเคอร์รี่และหลาย ๆ คนขับตามเฮียน้อย พอไปถึงตอนแรกไม่รู้ว่าคนร้ายไปทำอะไรมา เห็นเขาถือมีดตนเองก็จะกำลังเข้าไปหาคนร้าย เฮียน้อยก็บอกว่าอย่าเข้าไป มันมีมีดและมันฆ่าคนมา จากนั้นก็ตามในคลิปพวกเราช่วยกันไล่คนร้ายจนมีตร.มาสมทบ เหตุที่ช่วยกันเพราะเราเห็นว่าไอ้คนนี้ไม่ใช่คนดีแน่ หากปล่อยให้มันก่อเหตุกลัวมีคนเสียชีวิตเพิ่ม ดีใจที่ได้ช่วยกันสยบไอ้คลั่ง ส่วนสาเหตุที่มันคลั่งตนคิดว่ามันเสพยาบ้าจนหลอนไม่เกี่ยวกับวิชาอาคมแต่อย่างใด
ส่วนน้องอาร์ท หรือนายชยพล วาทบัณฑิตกุล หนุ่มเคอร์รี่ใจเด็ด ถีบรถจยย.ของไอ้คลั่งจนล้มลงเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันนั้นขับรถจยย.ไปส่งของ ก็มีคนขับรถไล่คนร้ายและร้องตะโกนว่า คนร้ายฆ่าคนมาหลายคนแล้ว ผมจึงตัดใจไล่ด้วย พอมาถึงร้านขายโทรศัพท์จึงตัดสินใจถีบรถคนร้ายให้ล้ม ก่อนถีบรถจยย.คนร้ายคิดในใจว่าต้องเอารถคนร้ายล้มให้ได้ ตอนแรกไม่คิดว่าคนร้ายมีมีด รู้ตอนเขาเอามีดจะมาแทงขาผม พอรถมันล้ม พี่เสื้อฟ้าก็ใช้ไม้สู้คนร้าย ผมและพี่แจ๊คที่ขับแกร็บก็ช่วยกัน ตอนนั้นมีตำรวจมาแล้วก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตร. ส่วนตัวคิดว่าคนร้ายคลั่งน่าจะหลอนยามากกว่าหรือยาดีด ส่วนเรื่องวิชาอาคมก็อาจจะมีส่วนผมเชื่อเรื่องไสยศาสตร์แต่ที่มันคลั่งคิดว่ามันเล่นยามากกว่า
ส่วน เฮียน้อย หรือนายธนัชพงศ์ ชัยประสพวงศ์ อายุ 54 ปี คนนี้สุดยอดความหาญกล้าเพราะไล่คนร้ายมาตั้งแต่หลังเรือนจำและร้องตะโกนให้คนช่วย โดยเฮียน้อยเปิดเผยว่า จริงๆ แล้วขอบคุณน้องๆ ทุกคนที่ช่วยกัน ถ้าผมคนเดียวคงไม่ได้ ก่อนไอ้คลั่งทำร้ายคนอีก โดยระหว่างรอตัดผมแถวหลังเรือนจำ ช่วงที่รอคิว ก็เดินออกมา เห็นน้องผู้หญิงเอามือกุมคอ ส่วนน้องอีกคนก็ทิ้งรถ มองๆ ตอนแรกคิดว่าแฟนทะเลาะกัน แต่ดูสภาพคนทำแล้วไม่น่าใช่ เพราะเขาหัวกระเซิง มือมีมีด ก็เลยขี่รถตามเลย ตั้งแต่หลังเรือนจำ จนมาถึงถนนสุรการ ระหว่างขับไล่ตาม ก็บีบแตรรถและตะโกนร้องบอกให้ทุกคนรู้ว่าคนร้ายช่วยกันจับ มันเป็นฆาตกรฆ่าคน จากนั้นมีน้องผู้ชาย ขับจยย.ซ้อนมากับแฟน ถามผมว่า เกิดอะไรขึ้น พอบอกว่ามันฆ่าคน น้องเขาก็เบิ้ลรถจยย.ตามติดๆ และตามด้วยน้องเคอรี่ และน้องแกร๊ป รวมเป็น 5 คน ตลอดการขับไล่ล่า ผมก็ต้องตะโกนเสียงดังๆ ให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เหตุการณ์ ออกพื้นที่จากอันตรายให้ไวที่สุด ที่สำคัญผมเลือกตะโกน ท้าทายมัน เพื่อให้มันมาสนใจที่ผม แทนเหยื่อ
ผมต้องขอบคุณน้องๆ ทั้ง 4 คน ที่ตามมา ลำพังผมคงสู้อะไรมันไม่ได้ ขอบคุณน้องที่ขับแกร็บ เขาจะปะทะกับโจร ผมยั้งไว้ เตือนว่า อย่าไปบวก มันหวังชีวิต มันคลั่งแล้ว อย่าไปแลก แล้วก็หาเครื่องทุ่นแรง ตามที่เห็นในคลิปถ้าเป็นใครเจอแบบนี้ก็ต้องทำแบบเฮีย ช่วยอะไรได้ ผมก็ช่วยครับ และขอชื่นชมน้องเคอร์รี่ ที่ถีบรถคนร้ายล้ม
ขณะเดียวกันชาวเน็ตและชาวจ.อุดรธานีแห่ชื่นชมความหาญกล้าของเหล่าฮีโร่ทั้งสามคนต่างชื่นชมและยกย่องให้เป็นคนดีศรีอุดร พร้อมกันนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ อบจ.อุดรธานี พลเมืองดี ได้เข้ารับมอบเงินรางวัล จากนายกิจธนะ ธรา ปลัด อบจ.อุดรธานี และนายสมศักดิ์ วาทบัณฑิตกุล กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 4 รายละ 3,500 บาท เพื่อร่วมเป็นกำลังใจคนดี เชิดชูความกล้าหาญจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ร้านพี.เอ.โมบาย มอบเพิ่มเติมอีกรายละ 3,000 บาท และผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมมอบเงินให้รายละ 1,000 บาท