เมื่อวันที่  9  ธ.ค. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณป่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือช่องตามี ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ซ้อนทับเขตป่าถาวรตามติคณะรัฐมนตรี “ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา” ท้องที่ ต.ดงรัก  อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ  ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ  600  เมตร   พิกัด UTM 48 P 410123 E 1588023 N คณะเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา (ชุด Smart Patrol) อำนวยการโดย  นายชัยวัฒน์  ลิ้มลิขิตอักษร  ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9  อ.ภูสิงห์ อำนวยการโดย  นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์  หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี ร้อย ม.7814 อำนวยการโดย พอ.พยัคฆพล คุ้มแสง รอง.ผบ.ฉก.3  ได้ตรวจพบไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ จำนวน 13 ต้น ไม้กระบาก จำนวน 1 ต้น รวม 14 ต้น ถูกตัดโค่นและแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ กองรวมกันอยู่   เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า  มีไม้รวมทั้งสิ้น จำนวน 34 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 61.67 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ  2 ล้านบาท  จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ตะเคียนทองและไม้กระบากทั้งหมดเอาไว้โดยไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด

นายสาธิต พันธุมาศ  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เปิดเผยว่า  จากการที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.ภูสิงห์ ตรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบแล้วพบว่า บริเวณพื้นที่เกิดเหตุที่ตรวจพบไม้ทั้งหมดนี้เป็นป่ารกทึบ เป็นพื้นที่อันตราย เป็นสนามทุ่นระเบิดติดชายแดน ไทย-กัมพูชา ไม่มีเส้นทางชักลากที่เหมาะสม จึงไม่สามารถนำไม้ของกลางออกจากที่เกิดเหตุได้  โดยได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11,48,69, พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562  มาตรา 53,55(5)  ซึ่งตนจะได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวนดำเนินการตามระเบียบและหนังสือสั่งการของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมได้จัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป