นายวิชัย เที่ยงธรรม อายุ 39 ปี พ่อค้ารถเร่ขายก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวด้วยรถสามล้อเครื่องมาเป็นปีที่ 6  แล้ว แต่หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กระทบต่อรายได้ ลูกค้าหายไปยอดจำหน่ายลดลงจำนวนมาก แต่หลังจากที่ได้สมัครลงทะเบียนคนละครึ่งกับรัฐบาล ทำให้ยอดขายดีขึ้น โดยลูกค้าที่ขับรถผ่านไปมา เห็นป้ายคนละครึ่ง ยังกลับรถเลี้ยว มาซื้อ จากคนละถุงเพิ่มเป็นคนละ 2 ถุง ตนจึงมองว่าหากเทียบกับโครงการอื่นๆ ที่รัฐบาลทำมา ตนมองว่าโครงการคนละครึ่งนี้ เป็นโครการที่ดีที่สุดเท่าที่รัฐบาลทำขึ้นมา เป็นโครงการที่เข้าถึง ประชาชนทุกชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย ตั้งแต่หาบเร่ แผงลอย สามารถเข้าถึงหมด ซึ่งตนอยากให้รัฐบาลขยายเวลาโครงการคนละครึ่งออกไปจนกว่า สถานการณ์โควิด-19 จะหมดไป 

ขณะที่นายไชยณรงค์ มณีสวัสดิ์ อายุ 31 ปี พ่อค้ารถเร่จำหน่ายขนมจีน กล่าวว่า ยึดอาชีพขายขนมจีนรถเร่มาหลายปี ในปีนี้เป็นปีที่แย่ที่สุด ประกอบกับเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การจำหน่ายกลับแย่ลงไปอีก แต่พอได้ร่วมโครงการคนละครึ่งกับรัฐบาล ทำให้ยอดขายดีขึ้น กว่าที่ผ่านมา ลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เป็นโครงการที่ดีมาก เป็นโครงการรายย่อย ช่วยรายย่อย จึงอยากให้รัฐบาลขยายวงเงินเพิ่มขึ้น และขายโครงการออกไปนานๆ จนกว่าจะมีวัคซีนรักษาโรคโควิด-19 มาใช้ในประเทศไทย