เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 เวลา 18.00 น. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมี นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายโกสิน เทศวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ สนามมวยเวทีราชดำเนิน เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เวลา 18.30 น. ตรวจสถานประกอบการเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า ร้าน FAAH ร้าน ป.กุ้งเผา เขตบางกอกน้อย เวลา 20.00 น. ตรวจสถานประกอบการร้านเดโม่ ร้านสเนลบาร์ ร้านเอสแอนบี ร้านบาร์บาร์บาร์ เขตวัฒนา 

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับปัจจุบันมีคนไทยที่ลักลอบไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านและติดเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยไม่เข้าระบบกักตัว ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) 

 กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) จึงได้มอบหมายให้คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย ร่วมกับสำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ 4 ประเภท ประกอบด้วย สนามมวย ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 9-15 ธ.ค. 63 เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่เชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือเจ้าของสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่กรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน อาทิ มีจุดคัดกรองตรวจวัดไข้ วัดอุณหภูมิ การใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” แทนการลงชื่อในสมุด เนื่องจากแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” มีความชัดเจนทางข้อมูลในการติดตามตัวบุคคลได้ง่ายกว่าการลงชื่อในสมุด การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล มีการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับจำนวนคนที่ไม่แออัดเกินไป การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 

โดยเน้นย้ำให้สถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการหลักที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำความสะอาดพื้น และพื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากอนามัยแบบผ้าตลอดเวลา จัดให้มีจุดบริการล้างมือ การเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน การควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ และการใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ตามที่ราชการกำหนด นอกจากนี้ได้มอบหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้แก่ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการในสถานประกอบการอีกด้วย