วันที่ 27 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า กรณีนางนวลศรี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี และนายลี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี สองสามีภรรยาซึ่งปกติจะอยู่บ้านตามลำพัง ถูกหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วม ผมประบ่า ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาหลอกตีสนิทอ้างเป็นเพื่อนลูกสาว แล้วออกอุบายว่าหิวข้าว ยายหากับข้าววุ่น ก่อนจะแอบขโมยเงินในกระเป๋าในบ้าน ได้เงินสดไปกว่า 1 หมื่นบาท ทองอีก 1 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 30,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา พ.ต.อ.ศิลปชัย พงศ์วัชรจินดา ผู้กำกับ สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ ร่วมกับนายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอนาโพธิ์ ค้นหาทางทะเบียนราษฎร์ เปรียบเทียบภาพรูปพรรณของหญิงสาวตามคำให้การของสามีภรรยาผู้เสียหาย จนกระทั่งพบตัวว่าเป็นชาวอุทัยธานี และมีการออกหมายจับในเวลาต่อมา

 

 

 

ล่าสุดตำรวจกองกำกับการ 3 กองปราบปราม ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และชุดสืบสวน สภ.นาโพธิ์ บุรีรัมย์ สามารถตามจับตัว น.ส.ธวัลกร อายุ 43 ปี ได้ที่บ้านพักเลขที่ 302 หมู่ 2 ต.สะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี และนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.นาโพธิ์ ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.ธวัลกร ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยเงินสด และทอง สองตายายที่ อ.นาโพธิ์จริง แต่เพิ่งทำเป็นครั้งแรก โดยผู้ต้องหาขอโทษยายและเอาเงินสดคืนให้ยายเป็นเงิน 40,000 บาท จากที่เสียหาย 30,000 บาท

 

น.ส.ธวัลกร สารภาพด้วยว่า หมู่บ้านของตนที่ จ.อุทัยธานี เป็นหมู่บ้านทำน้ำผึ้งแบบผสม บรรจุใส่ขวด แล้วเอามาขายในเขตภาคอีสาน โดยขนน้ำผึ้งรถจักรยานยนต์ใส่รถกระบะ แล้วขับตระเวนขายไปตามหมู่บ้าน ไม่เคยทำมาก่อน แต่ครั้งนี้ตนทะเลาะกับสามีที่อุทัยธานี แล้วขับรถจักรยานยนต์มาเรื่อยๆ เมื่อมาถึง อ.นาโพธิ์ เงินหมดจึงตระเวนวนหาลูกค้าเก่าที่เคยซื้อน้ำผึ้ง เมื่อเห็นยายมีเงินจึงขโมยเงินเพื่อเอาไปเป็นค่าใช้จ่าย