เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้า ! "ครูตบนักเรียน" ไม่ส่งการบ้าน ครูยอมขอโทษผู้ปกครองเด็กให้อภัย - สอบวินัยดำเนินการต่อ


5 มิ.ย. 2562, 09:29



คืบหน้า ! "ครูตบนักเรียน" ไม่ส่งการบ้าน ครูยอมขอโทษผู้ปกครองเด็กให้อภัย -  สอบวินัยดำเนินการต่อ




วันนี้(4 มิ.ย.62) เวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมโรงเรียนบ้านสว่างโนนแดง ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายปรานีต ชัยสุวรรณ ประธานเครือข่ายศีขรภูมิ 1 สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 พร้อมด้วยนายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียนสว่างโนนแดง ,นายกาหลง สุนทรพิทักษ์ ครูที่ปรากฏอยู่ในคลิปข่าวตบนักเรียนว่อนโซเชียล และผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ได้ประชุมเพื่อหารือหาข้อสรุป เพื่อไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประชุมหารือ และยังไม่แล้วเสร็จ

หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นในเวลา 11.20 น.นายกาหลง สุนทรพิทักษ์ ครูที่ปรากฏในคลิป ได้เดินลงมาพร้อมกับ นางวันดี กองแก้ว ผู้ปกครองเด็ก ก่อนจะยกมือสวัสดีพร้อมกับขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า อีกไม่นานตนก็จะเกษียณแล้ว จึงมีความตั้งใจและมุ่งมั่น บางทีก็พลาด ตนรู้สึกเสียใจ ตนก็ต้องขอโทษทุกฝ่าย ตนขอขอบคุณผู้ปกครองที่เข้าใจ ตนเป็นคนเกิดที่หมู่บ้านนี้ สอนอยู่ที่นี่ จึงเกิดความปรารถนาดี ยิ่งใกล้เกษียณแล้ว จึงอยากทำความดี อยากให้ลูกศิษย์ได้ดี เรียนดี ทำลงไปไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องขนาดนี้ ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ยอมรับว่าทำ แต่ทำด้วยเจตนาดีด้วยหัวใจที่หวังดี

นางวันดี กองแก้ว ยายซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็ก กล่าวสั้นๆว่า ตนเองให้อภัยและยกโทษให้ เพราะที่ผ่านมาการเรียนการสอนของครูกาหลงก็ดี แต่เขาผิดพลาดช่วงนิดเดียวดังกล่าว ผู้ปกครองเห็นแล้วก็เสียใจ แต่พอคุยกันแล้ว จึงสบายใจและอภัยให้ และเขาก็บอกจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็เป็นบทเรียนของเขาแล้ว เขาก็เป็นทั้งน้องทั้งเพื่อนในหมู่บ้านด้วย




นายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียนสว่างโนนแดง กล่าวว่า เมื่อเย็นวานนี้ (3 มิ.ย.62) นายกาหลง สุนทรพิทักษ์ ครูที่อยู่ในคลิปได้เดินสายไปพบกับผู้ปกครองเด็กเพื่อขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว วันนี้จึงมีการเปิดเวทีให้ทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยกัน และสร้างเงื่อนไขร่วมกันหลายอย่าง ซึ่งกระบวนการอื่นนั้น ทางโรงเรียนจะได้ดำเนินการตาม ขั้นตอนของทางราชการต่อไป อย่างที่สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ได้มีคำสั่งให้ทางโรงเรียนตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง และได้ได้มีการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยไม่นิ่งดูดาย กำลังอยู่ในช่วงการประมวลรวบรวมข้อมูลต่างๆ ส่งรายงานต้นสังกัดต่อไป ในเรื่องผลที่จะตามมา ในการตัดสินผลในประเด็นนี้นั้น ซึ่งในเรื่องภายในของโรงเรียนก็จบแล้ว แต่ว่า คำสั่งหรือการพิจารณาจากข้อประเด็น การสืบสวนต่างๆนั้น ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัดที่จะพิจารณาดำเนินการต่อไป ก็คอยติดตามกันดู ซึ่งทั้งผู้ปกครองและครูเองก็เข้าใจในตรงนี้ ชัดเจนแล้ว ส่วนการแก้ไขปัญหาของโรงเรียนในเบื้องต้น ในรายวิชาภาษาไทย ชั้น ม.1 ตนก็ได้ให้เปลี่ยนตัวครูผู้สอนแล้ว เพื่อไม่ให้คุณครูท่านเดิมและนักเรียนพบกัน แม้ว่าบรรยากาศจะกลับมาสู่ บรรยากาศที่ดีเหมือนเดิมแล้วก็ตาม แต่เพื่อแก้ปัญหาให้ทุกท่านสบายใจ ทั้งครู และนักเรียน ส่วนเด็กที่ถ่ายคลิป ดูแล้วเขา มีความกังวล ที่ทำลงไป ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้คุยกับผู้ปกครองและเด็กแล้ว เพื่อให้เกิดความสบายใจมากที่สุด ซึ่งเด็กยังมีความรู้สึกว่าตนเองมีความผิดอยู่ ตนก็ให้กำลังใจไปว่า ทุกคนไม่มีใครไม่ผิดหรอก เพียงแต่ว่าการลบล้างความผิด ซึ่งเขาเข้าใจว่าเขาผิด แต่ทุกคนมองว่าจะผิดหรือไม่ผิดอย่างไรนั้น ไม่มีใครสรุปได้ มันอาจจะเป็นส่วนดี หรือไม่ดีก็ได้ แต่ว่าตัวเด็กที่ถ่ายคลิปเองก็มีความมั่นใจมากขึ้น และก็มาโรงเรียนตามปกติ เมื่อเช้าตนก็ได้เชิญครูแนะแนว ครูจิตวิทยาไปพูดคุย ก็พบว่าเด็กมีคามมั่นใจ และก็สร้างความเข้าใจให้เขาว่า ถ้าอยากลบล้างความผิดตัวเองก็ต้องตั้งใจเรียน สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเราให้ได้แบบนี้เป็นต้น เขาก็รับปากและรู้สึกสบายใจขึ้น นี่คือสิ่งที่โรงเรียนดำเนินการที่จะดูแลเด็กคนนี้และเด็กคนอื่นๆด้วย



ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว เกิดขึ้นจากโลกออนไลน์ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก ถึงคลิปครูผู้ชายตบบ้องหูนักเรียนชายหน้าห้องเรียน โดยในคลิปครูกำลังต่อว่านักเรียนชายที่ยืนก้มหน้าอยู่ และเดินไปดึงหู นักเรียนไม่มีท่าทีจะต่อสู้ หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป ปรากฎมีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก ถึงความเหมาะสมและไม่เหมาะสมในการทำโทษ ขณะที่ครูที่อยู่ในคลิป คือ นายกาหลง สุนทรพิทักษ์ เป็นครูสอนภาษาไทย ในคลิปเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเกิดกระแสข่าว ก็มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีนายวันชัย คำพาวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาสุรินทร์ (รอง ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต1) เขต รักษาราชกรแทน ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 1 มาประชุมร่วมกับนายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียนสว่างโนนแดง ร่วมกับคณะครูอาจารย์ และนายการหลง สุนทรพิทักษ์ ครูที่อยู่ในคลิป ใช้มือตบศีรษะ ใบหู เด็กนักเรียน

หลังจากประชุมแล้ว นายวันชัย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้ว และวานนี้ได้เรียกประชุม ผอ.โรงเรียน และครู อาจารย์ และครูที่ก่อเหตุแล้ว มาประชุมชี้แจงและชักถามปัญหาที่ขึ้นกับทางโรงเรียน ให้ ผอ.โรงเรียน ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้เสร็จภายในวันนี้(4 มิ.ย.62) ดังกล่าว ให้เป็นไปตามระเบียบราชการและตามกฎหมาย และกำชับกับทางครู ในการเรียนการสอน ในเรื่องระเบียบต่างๆซึ่งในการประชุมแต่ละครั้ง เราก็ได้กำชับให้ทาง ผอ.โรงเรียนทุกแห่ง ได้ระมัดระวังในการลงโทษเด็ก

ขณะที่ นายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียนสว่างโนนแดง ระบุว่าครูกาหลง จริงๆเป็นครูสอนภาษามีความสามารถในการสอนภาษาไทย มีความมุ่งมั่น ตั้งเป้าหมายไว้สูงมาก หากเด็กไม่ทำการบ้านไม่ส่งงานตามเป้าหมายก็จะเข้มงวด ก็จะว่ากล่าว และติดตาม สิ่งที่เกิดขึ้นโรงเรียนไม่ปฎิเสธความรับรับผิดชอบ ทางโรงเรียนเองก็ได้กำชับครู ในการสอนมาอย่างตลอด ให้ครูบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ทำอย่างไรให้เด็กนักเรียนรักครู ครูรักเด็กเรียน ทางโรงเรียนเสียใจ แม้เราจะได้พูดคุยกันแล้วแต่มาเกิดขึ้นอีก

ขณะที่นางกานดา นามปัญญา ผู้ปกครองของเด็ก ที่ถูกครูลงโทษใช้มือตบศีรษะ ระบุว่า ลูกตนเอง เป็นเด็กแอลดี บกพร่องในการเรียนรู้ อ่านช้าคิดช้า ครูต้องทำใจ อย่าไปเร่งให้เด็กเรียนรู้เร็วเหมือนเด็กเก่ง เสียใจที่ครูลงโทษเด็กแบบนี้ แม่เองก็ยังไม่เคยทำกับลูก ถ้าครูคนนี้จะอยู่หรือจะไป อย่างไร ก็ต้องปรับตัวเอง ครูจะทำโทษ ทำได้ ตีไม้ตีมือ จะทำรุนแรงกับเด็กไม่ได้ มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ อีกอย่าง เขาเป็นเด็กแอลดี เรียนช้ากว่าคนอื่น เดี่ยวนี้กลายเป็นว่า วิชาภาษาไทยครูกาหลง เด็กๆก็ไม่อยากเข้าเรียน พ่อแม่จะให้ลูกย้ายโรงเรียน ถ้าครูจะอยู่สอนต่อก็ต้องปรับตัวเอง ไม่ลงโทษเด็กแบบนี้

ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนระบุว่า ครูกาหลง มีพฤติการณ์ เข้มงวดและลงโทษเด็กในลักษณะนี้ มาอย่างต่อเนื่อง และเคยมีการร้องเรียนกับทางโรงเรียน ไปก่อนหน้านี้แล้ว โรงเรียนก็ตักเตือนไปแล้ว ก็ยังกระทำอีก ทำให้ผู้ปกครองหลายคน ต้องย้ายลูกหลานตนเองไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ส่วนวันพรุ่งนี้ นายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียนสว่างโนนแดง จะไดเรียกประชุมผู้ปกครอง พร้อมด้วย ครูกาหลง และครูอาจารย์ ในโรงเรียน เพื่อหาข้อสรุปแก้ไขปัญหาร่วมกัน สำหรับเด็กที่ถูกครูกาหลง ลงโทษ มีถึง 11 คน มีทั้งเด็ก แอลดี บกพร่องทางการเรียน และเด็กนักเรียนที่มีสติปัญญาปกติ

ส่วนเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ถูกครูกาหลงลงโทษ ด้วยการใช้ฝ่ามือตบที่ศีรษะและใบหู บอกกับผู้สื่อข่าว ตนเองไม่ได้ส่งการบ้านภาษาไทยจริง เป็นใบงาน ที่คุณครูให้มาทำที่บ้าน เมื่อช่วงวันเป็นเทอมใหม่ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ไม่ได้ส่งใบงานวิชาภาษาไทย และติดปัญหา เรื่องอ่านหนังสือไม่ได้ทั้งหมด ด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.62) นั้น

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.