ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พลตำรวจตรีสาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงผล การระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตรวจค้นเป้าหมาย กลุ่มผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างอาวุธสงคราม และสิ่งผิดกฎหมาย ระหว่างวันที่ 7 - 13 ธันวาคม 2563 แบ่งเป็น คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ได้ผู้ต้องหา 2 คน และคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ได้แก่ คดีการพนัน จับกุมผู้ต้องหาได้ 13 คน คดีเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 178 คน พร้อมของกลาง ยาบ้ากว่า 5 พัน 600 เม็ด, ไอซ์ ประมาณ 224 กรัม กัญชาสดและกัญชาแห้ง กว่า 2 กิโลกรัม พืชกระท่อม 15 กิโลกรัม และน้ำต้มพืชกระท่อมอีกจำนวนหนึ่ง / คดี เกี่ยวกับอาวุธปืน ได้ผู้ต้องหา 21 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 6 กระบอก และอาวุธปืนขนาดต่างๆ อีก 7 กระบอก เครื่องกระสุนกว่า 200 นัด นอกจากนี้สถานีตำรวจภูธรพุนพิน สามารถจับกุมคดีฉ้อโกงนำรถเช่าไปจำนำ ได้ผู้ต้องหา 1 คน คือ นางรสิจันรณา นิมิตรสุวรรณ อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดสงขลา พร้อมของกลางรถยนต์ 8 คัน ซึ่งคดีดังกล่าว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทให้เช่ารถ 3 บริษัทได้ให้นางรสิจันรณา เช่ารถยนต์หลายคัน โดยอ้างว่า จะเอาไปให้เช่าต่อเพื่อทำกำไร และผู้ต้องหาได้นำบัตรข้าราชการครูมาแสดงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้รับราชการแล้ว

 

 

ต่อมา ผู้ต้องหาได้ต่อสัญญาเช่าและจ่ายค่าเช่าไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ให้เช่าสงสัยถึงพฤติกรรมดังกล่าว จึงตรวจสอบร่วมกับตำรวจ ก่อนพบว่ารถทั้งหมดอยู่ในพื้นที่อำเภอลานสกาและอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และไม่มีการเคลื่อนไหว จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ นำมาซึ่งการจับกุมตรวจยึด รถยนต์ทั้งหมดคืน กรณีดังกล่าว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ย้ำว่า การก่อคดีในลักษณะเช่นนี้ ยังมีอีกหลายกรณี จึงขอให้ผู้ให้เช่า ตรวจสอบและเก็บหลักฐาน การเช่าให้รอบคอบ หากพบพิรุจ ข้อสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ที่รับจำนำหรือผู้ซื้อรถ ที่ไม่มีเอกสารหลักฐาน ถูกต้องในราคาถูก ให้พึงระวังและตั้งสมมติฐานไว้ว่า รถลักษณะนี้ อาจเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย