เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตร.อุดร ตั้ง 3 ทีม ล่าคนร้ายก่อเหตุแทงสาวแกร็บฟู้ด และจี้ชิงทรัพย์ ปชช.


13 ธ.ค. 2563, 21:11



ตร.อุดร ตั้ง 3 ทีม ล่าคนร้ายก่อเหตุแทงสาวแกร็บฟู้ด และจี้ชิงทรัพย์ ปชช.




วันนี้ (13 ธ.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี รวม 20 นาย เพื่อเร่งติดตามคนร้ายดักรอแล้วใช้อาวุธมีดดักแทง น.ส.สายฝน อายุ 38 ปี สาวแกร็บฟู้ดจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอยกิจขยัน ถ.อุดรดุษฎี เทศบาลนครอุดรธานี และ เหตุคนร้ายใช้ไม้ดักตีประชาชขนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ภายในซอยริมน้ำ ชุมชนโนนพิบูลย์ หน้าสวนน้ำยูโซเทล เทศบาลนครอุดรธานี และเหตุคนร้าย 2 คน ใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ที่บ้านหนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมือง ซึ่งทั้ง 3 เหตุ เกิดในช่วงเวลา 20.45 น. ถึงเวลา 21.30 น. ของคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2563 ในเวลาไล่เลี่ยกัน  
 
โดย พ.ต.อ.อารี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้แบ่งกำลังชุดสืบสวนเป็น 3 ชุด ทำงานสืบสวนทั้ง 3 เหตุ ชุดแรกมี พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี รับผิดชอบสืบสวนติดตาม คดีคนร้ายดักแทงสาวแกร็ปฟู้ด ที่ซอยกิจขยัน ชุดที่ 2 มี ร.ต.อ.สมพร จันทร์ลอย รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี รับผิดชอบสืบสวนเหตุ คนร้ายใช้ไม้ทุบทำร้ายร่างกายชาวบ้าน  ส่วนชุดที่ 3 พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ กองม่วง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี สืบสวนเหตุ 2 คนร้ายใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ที่บ้านหนองบุ ต.สามพร้าว โดยทั้ง 3 ชุด ได้ออกสืบสวนและเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อหาตำหนิรูปพรรณ และยานพาหนะ ของคนร้าย โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชม. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟัง 
 
หลังการประชุม พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.วภ.เมืองอุดรธานี ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 3 คดีว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ตรวจกล้องวงจรปิดตามซอยและถนนใกล้ที่เกิดเหตุมาแล้วบางส่วน สิ่งที่ทราบคือเรื่องของพฤติกรรมเลียนแบบที่สื่อมวลชนและประชาชนสงสัย ซึ่งดูภาพแล้วหลังจากที่ผู้เสียหายขี่รถ จยย. เข้ามาในซอย ไม่มีผู้ใดขี่รถตามเข้ามา ดูแล้วจะมองว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบคงไม่น่าจะใช่ อยากให้ชาวอุดรสบายใจ ซึ่งเราวิเคราะห์แล้วว่า คนร้ายน่าจะมารอในซอยก่อน เพื่อจะก่อเหตุในการประสงค์ต่อทรัพย์มากกว่า  
 
“แต่ทั้งนี้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ได้มายังไม่ชัดเจน ซึ่งเห็นภาพรถเก๋งสีขาวขับสวนเข้ามาในซอยในเวลาใกล้เคียงกัน ขณะนี้กำลังใช้เทคนิคเพื่อดูทะเบียนรถเพื่อจะได้เชิญตัวคนขับมาสอบถาม รวมถึงที่อาจจะมีกล้องหน้ารถ ที่น่าจะบันทึกภาพคนร้ายในจุดเกิดเหตุได้ ส่วนกล้องวงจรปิดของทางเทศบาล 2 จุดในซอย เราดูแล้วยังไม่มี ทำให้ยังไม่ชี้ชัดได้ว่า รถคันไหนเป็นรถของคนร้าย โดยทางตำรวจจะเข้าไปพูดคุยกับคนที่อยู่ในซอยดังกล่าวอีกครั้ง เผื่อว่าจะมีคนที่เห็นเหตุการณ์ ขอเวลาให้ทางตำรวจตรวจสอบให้แน่ชัดว่า รถต่าง ๆ ที่เห็นจากภาพกล้องวงจรปิดที่ได้มา คันไหนจะเป็นรถของคนร้าย นอกจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อทราบตำหนิรูปพรรณคนร้าย และรถ จยย. ที่คนร้ายใช้มีลักษณะอย่างไร
 
พ.ต.อ.อารี เปิดเผยอีกว่า ส่วนเหตุที่ 2 ที่คนร้ายใช้ไม้ตีผู้เสียหาย ชุดที่ลงพื้นที่ทราบว่าคนร้ายเป็นชายถือไม้ ฟาดไปในกลุ่มของผู้เสียหาย 1 ครั้ง มีคนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้เสียหายคุ้นเคยบริเวณที่เกิดเหตุ ต้องดูภาพวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุในซอยโนนพิบูลย์และรอบหนองประจักษ์ศิลปาคมก่อน เพื่อดูว่าคนร้ายมียานพาหนะ หรือเดินมา หรือดูว่าคนร้ายมายังที่เกิดเหตุอย่างไร หรือคนร้ายป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ เราต้องขอดูกล้องวงจรปิดก่อน ส่วนเหตุที่ 3 ที่เป็นการชิงทรัพย์ มีกล้องวงจรปิดหน้าปากซอยที่เกิดเหตุ ซึ่งเราต้องขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดตรงนี้ก่อนว่า คนร้ายมาจากทางไหน 
 
“ทั้ง 3 คดี ในขณะนี้จากการร่วมประชุมในทีมชุดสืบสวนทั้งหมดวันนี้ เราดูแล้วว่าไม่น่าที่จะมีความเชื่อมโยงว่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน เป็นคนละส่วนคนละคดี ทั้งนี้เมื่อคืนนี้ เรามีงานประจำปีทุ่งศรีเมือง ที่จัดเป็นวันสุดท้าย ที่มีประชาชนมาเที่ยวในงานเป็นจำนวนมาก จะมีคนหลายคนแฝงเข้ามา เพื่อประสงค์อย่างอื่นรวมถึงคนร้าย ที่อาจจะประสงค์ต่อทรัพย์ ประสงค์ต่อเรื่องอื่น ๆ ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้” 
 
พ.ต.อ.อารี บอกอีกว่า แต่หากทั้ง 3 คดี เราเดินกล้องได้ภาพชัดเจน รู้ตัวว่าคนร้ายคือคนไหน ยานพาหนะอะไร มั่นใจว่าคนร้ายเป็นคนไหนแน่ ทางตำรวจจะให้ภาพคนร้ายกับสื่อเผยแพร่ รวมทั้งโลกโซเชียล ในการหาเบาะแสตัวคนร้าย แต่ขอเวลาในการตรวจ สอบให้ชัดเจนก่อน ถึงตอนนี้ตำรวจเราตั้งประเด็นแรกที่เหตุในซอยกิจขยันว่า เป็นการชิงทรัพย์ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทรัพย์มากกว่าการเลียนแบบไอ้คลั่ง
 
ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ตอนนี้สั่งให้ตำรวจเพิ่มกำลัง และไปประจำตามแยกต่าง ๆ ทั้งตำรวจจราจร ตำรวจสายตรวจ ตั้งด่านเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน ถึงแม้เราจะยังมีข้อจำกัดในการตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัด แต่เราจะใช้วิธีให้ตำรวจไปอยู่ประจำตามแยกต่าง ๆ จุดละ 2 คน มีรถ จยย.เปิดสัญญาณไฟวาบ ให้ชาวบ้านได้เกิดความมั่นใจ ไม่เกิดความหวาดระแวง ตำรวจเราอยู่กับประชาชนตลอด หรือหากผู่ใดมีเบาะแสของคนร้ายทั้ง 3 เหตุ สามารถโทรศัพท์แจ้ง 191 ได้ตลอดเวลา ผกก.สภ.เมืองกล่าวตอนท้าย









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.