สยองรับอรุณ ! พบ "หนุ่มวัย 27 ปี" สภาพร่างกายแหลกเหลว กลางถนนเอเชีย
14 ธ.ค. 2563, 09:35
เมื่อเวลา 6.00 น.วันที่ 14 ธันวาคม 2563 พ.ต.ท.มาโนช ฤทธิพูน พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนถนน สายเอเชีย ช่วงหลัก กิโลเมตรที่ 22 ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยาร่วมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
ในที่เกิดเหตุ บนถนนสายเอเชีย ช่องการจราจรเลนซ้ายสุด พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 1 กด 3034 พระนครศรีอยุธยา สภาพด้านหน้าได้รับความเสียหาย พังยับ ใกล้กันพบกระเป๋าสะพาย 1 ใบ กับเสื้อแขนยาว 1 ตัว ห่างไปประมาณ 15 – 20 เมตร ช่องการจราจรเลนขวาสุด พบร้องเท้าผ้าใบ เศษชิ้นเนื้อมนุษย์ กระจายเกลื่อนถนน คราบเลือดกระเด็นเต็มพื้นผิวการจราจร พบท่อน ขาซ้าย และยังพบ ลำตัวแขน ศีรษะ แหลกเหลว บนพื้นที่ถนน พบผู้เสียชีวิตสวมใส่กางเกงยีนขาวยาว ตรวจสอบตามร่างกาย พบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ เงินสดจำนวนหนึ่ง บัตรประชาชนในกระเป๋าสตางค์ระบุ ชื่อนาย สุทัศน์ งามใจ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 86 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองสังข์ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ
สอบถามนายทศพล ถาดทอง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร สมาคมอยุธยาร่วมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา เล่าว่า รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบร่างผู้เสียชีวิตบนถนนสายเอเซีย จึงรุดมาตรวจสอบก็พบมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน และบอกว่ามีศพนอนอยู่ จึงรีบมาตรวจสอบก็พบร่างผู้เสียชีวิตแหลกเหลวอยู่บนถนนแล้ว คาดว่ารถยนต์หลายคันพยามยามหักหลบร่างผู้เสียชีวิตทำให้เฉี่ยวชนกัน และยังพบจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต สภาพด้านหน้าพังยับเยิน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าผู้เสียชีวิตกขับรถจักรยานยนต์มาในช่วงเช้ามืด ในเลนซ้ายสุด ซึ่งถนนช่วงนี้มืดมาก และรถยนต์ รถบรรทุก สัญจรไปมาจำนวนมาก อาจจะชนเข้ากับท้ายรถที่สัญจรอยู่จนร่างกระเด็นตกลงพื้นผิวถนน ประกอบกับความืดทำให้รถที่สัญจรไปมาชนและทับร่างซ้ำ จนร่างกายแหลกเหลว กระเด็นมาอยู่ช่องการจราจรเลนขวาสุด พอฟ้าเริ่มสว่างทำให้รถที่ขับมาเริ่มเห็นจึงหักหลบจนเกิดอุบัติเหตุอีกหลายคัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งติดตามญาติผู้เสียชีวิตให้ทราบ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยาร่วมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี ต่อไป