เอกราช สุวรรณภูมิ เจ้าของเพลงฮิต "กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง" ชีวิตสะดุด กลับบ้านนอกไปทำนา
17 ธ.ค. 2563, 14:00
ลูกทุ่งดัง เอกราช สุวรรณภูมิ เจ้าของเพลงฮิต "กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง" เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ หลังโด่งดังมีเงินทองมากมาย แต่กลับเดินผิดทาง หลงระเริงกับชื่อเสียงและเงินทอง ใช้ฟุ่มเฟือย ซื้อรถหรูกว่า 30 คัน ทำธุรกิจก็ขาดทุนเกือบหมดตัว งานหดหายจนต้องกลับไปทำนา
เพลงกระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ทำให้ดังระเบิดเลยใช่ไหม
เพลงนี้ทำให้เทปขายได้ล้านหกแสนตลับ เพลงนี้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลยก็ว่าได้ครับ
ถ้าให้พูดถึงความโด่งดังตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
ตอนนั้นไปที่ไหนคือดังไปถึงหมดเลยครับ ทุกที่เปิดหมดเลย มีงาน 2-3 งานต่อคืน เป็นแบบนี้ต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี ตอนที่กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ดังเปรี้ยงออกมาประมาณปี 43 แล้วก็มีเพลงดังต่อเนื่อง สัญญาห้าบาท ขอแค่รู้ข่าว 3 เพลงนี้เป็นเพลงของครูสลาแต่งให้ทั้งหมดเลย เป็นครูเพลงที่เปลี่ยนชีวิตให้กับผม
สิ่งที่มาพร้อมกับความสำเร็จคือชื่อเสียงและเงินทองมากมาย
สมัยที่เรามีชื่อเสียง เราเงินทองเยอะ แต่เพราะเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง พอเห็นเงินแสน เงินล้าน ได้เงิน ได้ทองก็อยากลงทุนนั่นนี่ อยากเปิดร้านอาหาร อยากไปทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จ เพราะพรสวรรค์ของเราไม่ได้ให้มา
แปลว่าช่วงนั้นที่เงินผ่านมือเราเยอะ เราเอาเงินไปลงทุน แต่มันก็ไม่ใช่ความผิด เพราะเรามีความสนใจ แต่เพราะความไม่รอบคอบในการใช้เงิน เพราะเอาเงินไปเปลี่ยนรถถึง 30 คัน
คือชอบครับ พอเราเห็นรถรุ่นไหนดี เราขับมาหมดแล้ว สมมติว่าเราขับคันนี้มา 2-3 ปี พอเริ่มซ่อมเราก็เปลี่ยน เพราะเราต้องใช้รถในการทำงาน ก็ทำแบบนี้มาตลอด ขายซื้อใหม่ เพราะมันมีรุ่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ เราใช้ไม่กี่ปี เราก็ขายซื้อใหม่ มันก็เลยกลายเป็นเงินทุกบาทที่เราหามา ไปอยู่กับรถหมดเลย
เราหลงระเริงกับชื่อเสียงและเงินทองไหม
หลงแน่นอน ไม่ผิดครับ ถูกต้อง เพราะอย่างที่ผมว่า เราเป็นเด็กบ้านนอก ไม่เคยเห็นเงินหมื่น เงินล้าน อย่างวันนี้เราได้เงินมาสองแสน เราก็ใช้หมดเลยวันนี้ เพราะเราคิดว่าพรุ่งนี้เราก็หาได้อีก ซื้อของแบรนด์เนม เลี้ยงเพื่อน
เราเพลินกับการมีชื่อเสียงเงินทองแบบนี้ แล้วจุดไหนที่เกิดสะดุด แล้วตื่นขึ้นมา
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเบื่อกับการใช้ชีวิต เบื่อท้องถนนที่ต้องตะลอนไปหาเงินหาทอง แล้วก็ด้วยความที่เราเป็นนักร้องมา 20 ปี เรามีทุนอยู่ก้อนหนึ่ง เราก็ไปลงทุนปลูกมันสำปะหลัง ก็ปลูกได้มา 2 ปี บางทีก็มีแมลงกินบ้าง เงินที่เราลงทุนไปก็สูญเสียไป ผมก็ไปทำนาอยู่บ้าน แล้วก็เป็นช่วงที่งานเริ่มซาด้วย มันหดหายหมดทุกอย่างด้วย เราเลยไปทำนาอยู่บ้าน ผิวเราก็ดำเพราะเราตากแดด
แล้วมีคนทักไหมว่าดังก็ดังแล้วทำไมมาทำนา
มีทักเยอะครับ แต่ทำยังไงได้ เพราะอยู่กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายเราก็เยอะ เงินทองเราก็ไม่ค่อยมีแล้วช่วงนั้น เงินเก็บเราก็เอาไปลงทุน ก็เหมือนละลายน้ำไป ส่วนเงินเก็บก็มีบ้างครับ แต่มันก็ไม่ได้มีขนาดนั้น ขนาดที่ว่าอยากจะเปิดร้าน อยากจะซื้อรถแพงๆ แบบนั้นไม่ได้แล้ว แต่ถ้าอยู่กินแบบสบายๆ เราก็พอได้อยู่ครับ
ภาพ เอกราช สุวรรณภูมิ