เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว" น้ำตาร่วง! ค้ำประกันซื้อรถให้หัวหน้างาน 9 ปีก่อน สุดท้ายถูกบังคับคดียึดบ้าน หมดหนทางสู้


20 ธ.ค. 2563, 15:19



"แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว" น้ำตาร่วง! ค้ำประกันซื้อรถให้หัวหน้างาน 9 ปีก่อน สุดท้ายถูกบังคับคดียึดบ้าน หมดหนทางสู้




นางสาวอารยา สุขเกษม อายุ 30 ปี แม่ค้าขายก๊วยเตี๋ยว อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ร่ำไห้ขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกสำนักงานบังคับคดีจังหวัดระยอง ยึดบ้าน พร้อมที่ดิน ราคากว่า 1 ล้านบาท  ประกาศขายทอดเพื่อนำเงินชดใช้หนี้สถาบันการเงินซึ่งมีมูลหนี้กว่า 3 แสนบาท

 

นางสาวอารยา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 9 ปีที่ผ่านมา หลังจากเรียนจบได้สมัครเข้าทำงานกับบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง ต่อมาหัวหน้าขอร้องให้เป็นผู้ค้ำประกันซื้อรถยนต์เก๋ง 1คัน เพื่อใช้ทำงาน ตนเองเห็นว่าเป็นหัวหน้างาน  จึงไปเซ็นค้ำประกันซื้อรถยนต์เก๋งให้ จากนั้นไม่นานตนเองได้ลาออกจากงาน และมาทำธุรกิจส่วนตัวได้ประมาณ 3 ปี ศาลจังหวัดชุมแพ  จังหวัดขอนแก่น  มีหมายให้ไปไกล่เกลี่ย เรื่องติดค้างค่างวดรถยนต์เก๋งเนื่องจากผู้เช่าซื้อ ไม่ส่งค่างวดเป็นเวลานาน จากนั้นตนเองจึงติดต่อไปที่หัวหน้างานซึ่งอยู่จังหวัดขอนแก่น พร้อมกับแจ้งว่าถูกศาลจังหวัดชุมแพ มีหมายเรียกให้ไปไกล่เกลี่ยเรื่องค่างวดรถยนต์เก๋ง ที่เช่าซื้อไป ซึ่งหัวหน้างานบอกว่าจะไปขอไกล่เกลี่ยเอง โดยที่ตนเองไม่ต้องไป จากนั้นเรื่องเงียบหายไปเกือบ 6 ปี ซึ่งตนเองเข้าใจว่า หัวหน้างานได้ไกล่เกลี่ยกับสถาบันการเงินซึ่งเป็นบริษัทไฟฟ์แน้นท์เรียบร้อยแล้ว  จากนั้นก็ไม่ได้รับเอกสารจากศาลอีกเลย



ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สำนักงานบังคับคดีได้ส่งเอกสารประกาศยึดบ้านและที่ดินของตนเอง และประกาศขายทอดตลาด จึงทำให้ตกใจจากนั้นจึงติดต่ออดีตหัวหน้างาน แต่ติดต่อไม่ได้ เมื่อสอบถามญาติๆอดีตหัวหน้า ทราบว่าอดีตหัวหน้างานไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน  จึงทำให้ตนเองหมดหนทางที่ต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม และถ้าหากถูกยึดบ้านตนเองกับลูกสาวก็ไม่มีบ้านอยู่ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว ตนเองใช้น้ำพักน้ำแรงซื้อไว้พักอาศัยอยู่กับลูกสาว อายุ 12 ปี 2 คนแม่ลูก


โดยเฉพาะผ่อนกับธนาคารไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท และเหลือเพียง 1 ล้านบาทเศษจะหลุดจำนองแล้ว ในขณะที่มูลหนี้รถยนต์เก๋งที่ค้ำประกัน มีเพียง 3 แสนบาทเศษเท่านั้น แต่เนื่องจากตนเองไม่มีเงินมากถึง 3 แสนบาท ที่จะใช้หนี้ไฟแนนซ์ได้ และหมดหนทางเรียกร้องขอความเป็นธรรม จึงหวังพึ่งขอความช่วยเหลือเสี่ยโป้ หรือนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ เป็นที่พึ่งสุดท้าย  และหากไม่สำเร็จตนเองอาจจะจบชีวิตไปพร้อมกับบุตรสาว เพราะบ้านคือทรัพย์สิน ที่มีอยู่ และหากถูกยึดก็ไม่สามารถหาเงินซื้อได้อีกแล้ว

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.