ผู้ว่าฯ อยุธยาประชุมด่วน คณะกรรมการโรคติดต่อ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-เร่งตรวจสอบความเสี่ยงกลุ่มค้ากุ้งสมุทรสาคร
20 ธ.ค. 2563, 18:30
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ที่ ห้องประชุมทัศนีย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนที่เกี่ยว คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมประชุม เป็นการเร่งด่วน สืบเนื่องจากสถานการณ์สำคัญ รวมถึงงานสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จัดอยู่เป็นวันสุดท้าย รวมถึงการตรวจค้นหาคัดกรองเชิงรุกโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid – 19 ) โดยใช้เวลากล่าว 2 ชั่วโมง
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าประเด็นที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นชาวอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสุภาพสตรีซึ่งตามประวัติให้ทีมสาธารณสุขสอบสวน พบว่าเป็นผู้เดินทางมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ แล้วก็เดินทางมาโดยรถทัวร์ จากนั้นก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ ไปที่พัก ต่อมาผู้ป่วยส่งสัยว่าจะเป็นโควิด จึงเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งผลออกมาว่าเป็นโควิด แต่ว่าจำนวนเชื้อต่ำมาก อย่างไรก็ตามทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ อย่างแรกสถานที่ในทามไลน์ ที่ตัวสุภาพสตรีท่านนี้ไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตลาด ก็ได้ประสานท้องถิ่น อำเภอทำการล้างตลาด อย่างที่สอง ติดตามหาผู้ที่สัมผัสเชื้อ มาเข้าสู้ระบบการตรวจเชื้อไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ คนในครอบครัว ซึ่งรอผลการตรวจอยู่ แต่สันนิฐานว่าไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากมาย และในส่วนว่าจะเป็นเพียงซากเชื้อหรือไม่ต้องรอการยืนยันอีก 2 – 3 วัน ซึ่งจะสามารถยืนยันได้ว่า เคทบางปะอินเราควรจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมไหม ซึ่งเวลานี้มีความสบายใจไปส่วนหนึ่ง
ส่วนสถานการณ์สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือผลจากที่พบแรงงานต่างชาติที่สมุทรสาคร ส่วนนี้ได้ดูขอมูลจากทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งพึ่งไปประชุมที่กระทรวงมา ก็พบว่าเป็นแรงงานที่อยู่ในกลุ่มที่ทางจังหวัดสมุทรสาครเข้าซีลอยู่แล้วว่าน่าจะเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่นหอพัก หรือตลาดแพปลา แพกุ้ง ตรงนั้นคือการซุ่มตรวจจับแรงงานทั้งหมดมาตรวจ และก็พบยืนยัน ส่วนที่จะเกี่ยวกับพระนครศรีอยุธยาก็คงมี 2 – 3 ประเด็น 1.แพกุ้งแห่งนี้ไม่ได้เป็นแพกุ้งทะเลอย่างเดียว เพราะความที่เป็นตลาดกุ้ง ก็กลายเป็นว่ามีฟาร์มกุ้งที่เป็นกุ้งเลี้ยงถูกนำไปจากพื้นที่อื่นๆไปสู่ตลาดกุ้งนี้ด้วย ในอยุธยามีฟาร์มกุ้งในหลายอำเภอ เสนา ผักไห่ ลาดบัวหลวง ได้สั่งการประมงจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานขอให้สื่อสารไปยังเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงกุ้งว่าใครบ้างที่เอากุ้งไปขายช่วงเวลานี้ ขอให้ไปปรึกษานายแพทย์สาธารณสุขโดยด่วน เพื่อเข้าสู้กระบวนการตรวจเชื้อ ตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าอำเภออื่นไม่มีฟาร์มกุ้งไปขาย ยกเว้นอำเภอลาดบัวหลวง มีอยู่ 4 ราย รายที่ 1 เป็นพ่อลูก ตอนนี้เข้าสู่ระบบการตรวจเชื้อเรียบร้อยแล้วผลเป็นลบ รายที่ 2 เป็นคนนครปฐม แต่มาทำฟาร์มกุ้งที่ลาดบัวหลวง ได้ประสานงานให้ทางนครปฐมอำนวยความสะดวกในการตรวจเชื้อ เดี๊ยวเราจะติดตามผลมารายงานอีกครั้งหนึ่ง รายที่ 3 ที่ 4 เข้าสู้กระบวนการตรวจเชื้อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ยังรอผลยืนยันอีกทีว่าผลจะเป็นอย่างไร
ส่วนต่อมาเราได้ประชาสัมพันธ์ ในทางกว้างให้ทราบว่า ใครที่ไปมีส่วนที่แพกุ้งแห่งนี้ ขอให้มาปรึกษากับทางสาธารณสุข เราได้ให้เบอร์มือถือ เป็นสายด่วนของทางสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะได้รับคำแนะนำว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เพราะบางทีอาจเกิดความวิตกกังวน ไปสมุทรสาครก็จริงแต่ไปพื้นที่อื่น ที่มีความเสี่ยงต่ำ ถ้ากังวนใจ ปรึกษาสายด่วนได้ทันที
ส่วนที่กำชับเพิ่มเติมในกรณีส่วนของหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท ที่ทำงานอยู่อยุธยา และกลับมาทำงานในวันจันทร์ มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดกับหัวหน้าหน่วยงาน ได้ไปให้คำแนะนำว่าให้ปรึกษาทางสาธารณสุข เพราะความเสี่ยงของคนไม่เท่ากัน แม้จะมาจากสมุทรสาครก็จริง แต่ถ้ามาจากพื้นนที่ ที่ไม่มีความเสี่ยงเลยก็ไม่ต้องกังวนใจอะไร แต่ถ้ากังวนใจอยู่ใกล้ในพื้นที่เสี่ยง ทางสาธารณสุขจะแนะนำให้ว่าจะทำอย่างไร ดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนระยะต่อไป มั่นใจว่าผลกระทบจะต้องมีตามมาหลายส่วน ซึ่งแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ มีความเป็นพี่เป็นน้อง อาจจะเคลื่อนย้าย หรือมาหลบพักในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราได้ดำเนินการอย่างที่ 1 เลย ก่อนหน้านี้เราได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานร่วมกับทาง กรอมนและฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ออกตรวจในแคมป์คนงาน หรือสถานประกอบการที่มีคนงานต่างชาติอยู่ เฟต 1 ทำไปแล้ว หมื่นกว่าราย ไม่พบเชื้อเลย ตอนนี้เฟต 2 ที่ต่ำกว่า 50 คนลงมาซึ่งจะมีประมาณหมื่นกว่าราย เดิมแผนจะออกตรวจ 28 ธันวาคม ตอนนี้ได้ขอให้เริ่มปฎิบัติการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ซึ่งพรุ่งนี้จะประชุมแบ่งงานหน้าที่กัน คิดว่าวันอังคาร หน้าจะเริ่มออกตรวจได้อันนี้จะเร่งการตรวจให้เร็วขึ้นควบคุมการปฎิบัติ เพื่อลดความเสี่ยง ส่วนที่ 2 ที่ขอให้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง คือให้แผนที่มาตราการกระทรวงสาธารณสุขสั่งการกับมหาดไทยสั่งการในการเตรียมการด้านสาธารณสุข ในของมหาดไทยในการเอกซเรย์ เรื่องของชุมชน หมู่บ้าน หมู่บ้านที่มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ให้ประชาสัมพันธ์เอกซเรย์ลูกบ้าน ที่ไปในพื้นที่เสี่ยงอย่างเช่น ไปสมุทรสาคร เข้ามาสู่ระบบการตรวจตราโดยสาธารณสุข ที่จะต้องกำชับคือในเขตพื้นที่เทศบาล จะต้องให้ประธานชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาล เพราะเขตเทศบาลเป็นชุมชนเมือง เป็นตลาด เป็นห้องแถว อาคารพานิชย์ วิธีการปฎิบัติจะแตกต่างจากพื้นที่ที่เป็นชนบท ส่วนของโรงเรียนทั้งหลายก็ขอให้ดูความปลอดภัยของนักเรียน แต่ก่อนที่จะปิดอะไร ก็ขอให้ปรึกษาทางสาธารณสุข
ส่วนเรื่องรถโดยสารสายยาว อย่างเคทของเราการที่เดินทางกลับจากจังหวัดภาคเหนือกลับมาบ้าน ในส่วนของรถสายยาว บขส.เป็นคนควบคุม ขนส่งจังหวัดมีอำนาจ ในการกำกับ ก็จะให้ไปเข้มงวดกับทาง บขส.ในการตรวจตราแนะนำให้ผู้ที่เดินทางสายยาวต้องปฎิบัติการตามมาตราการของสาธารณสุข ส่วนเรื่องตลาดสด ตลาดที่มีการรับกุ้งจากสมุทรสาคร มาที่งานของ กรอมน.และทางสาธารณสุข ทางปกครอง จะออกตรวจตราตลอดคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ ว่าเราจะดูแลให้เกิดความมั่นใจอย่างที่สุด
ส่วนงานวันนี้ งานมรดกโลกวันสุดท้าย เราดูจากข้อมูลแล้ว ถือว่ายังไม่น่ากังวนใจมากนัก แต่สิ่งที่หน้าเป็นห่วงคือการป้องกันไว้ตั้งแต่เนินๆ ได้สั่งการให้ จุดทางเข้าการคัดกรองปกติให้ทำเหมือนเดิมแต่เราจะเพิ่มการสื่อสารด้วยภาษาพม่า ลาว กัมพูชา เป็นแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งเราทำไว้ตั้งแต่เริ่มต้นปี ส่วนที่สอง ในลานกิจกรรมต่างๆที่มีจอ LED เวทีกลาง จุดต่างๆเราจะขึ้นอินโฟกราฟฟิก 3 ภาษาเช่นกัน ส่วนเส้นทางภายในงานวันนี้ทีมจากสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับทางตำรวจและฝ่ายปกครอง ออกประชาสัมพันธ์กระตุ้น มีหน้ากากผ้าแจกด้วยและป้ายเป็นภาษาเพื่อนบ้านไปพร้อมกัน ในส่วนของเวทีแสงเสียง ซึ่งจะมี 2 รอบ รอยต่อระหว่างรอบ จะมีการทำความสะอาดด้วยน้ำยา เพื่อให้ผู้ที่มานั่งชมในรอบถัดไปเกิดความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงตามจุดต่างๆ อยากให้งานมรดกโลกของเราเป็นงานที่สนุก ประทับใจ และก็ปลอดภัย ไม่เสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19