"หญิงวัย 43" อาการหนัก-พูดไม่ได้ หลังผูกคอในห้องขัง กระดูกคอเคลื่อน-เลือดออกปาก
28 ก.ค. 2562, 16:19
จากกรณีนางนวลศรี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี และนายลี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี สองสามีภรรยาซึ่งปกติจะอยู่บ้านตามลำพัง ถูกหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วม ผมประบ่า ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาหลอกตีสนิทอ้างเป็นเพื่อนลูกสาว แล้วออกอุบายว่าหิวข้าว ยายหากับข้าววุ่น ก่อนจะแอบขโมยเงินในกระเป๋าในบ้าน ได้เงินสดไปกว่า 1 หมื่นบาท ทองอีก 1 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 30,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งตำรวจกองกำกับการ 3 กองปราบปราม ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และชุดสืบสวน สภ.นาโพธิ์ บุรีรัมย์ สามารถตามจับตัว น.ส.ธวัลกร แคฝอย อายุ 43 ปี ได้ที่บ้านพักเลขที่ 302 หมู่ 2 ต.สะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี และนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.นาโพธิ์ โดยตลอดเวลาที่ น.ส.ธวัลกร ถูกสอบสวนและตอบข้อซักถามของนักข่าว มีอาการเครียดผิดปกติ เพราะจำเป็นต้องให้การตามความเป็นจริง เนื่องจากมีหลักฐานมัดตัวแน่น จนกระทั่งตำรวจแจ้ง น.ส.ธวัลกร ผู้ต้องหาจะพาไปให้ผู้เสียหายที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดร้อยเอ็ด ชี้ตัว เพราะ น.ส.ธวัลกร ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุที่ขอนแก่นและร้อยเอ็ด ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความเครียดมากขึ้น
จนเมื่อเช้าวันที่ 28 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ตำรวจสิบเวร สภ.นาโพธิ์ ได้เรียกให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ น.ส.ธวัลกร ในห้องขัง เนื่องจาก น.ส.ธวัลกร ใช้ยกทรงของตัวเองผูกคอติดกับกรงเหล็กห้องขัง หวังจะฆ่าตัวตาย จากนั้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาลนาโพธิ์ และถูกส่งต่อไปที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เนื่องจากอาการสาหัส กระดูกคอเคลื่อน มีเลือดออกปาก
ทั้งนี้ ล่าสุดอาการของ น.ส.ธวัลกร ผู้ต้องหายังไม่สามารถพูดได้ เพราะกระดูกคอเคลื่อน มีเลือดออกทางปาก ยังอยู่การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยมีตำรวจกองปราบ และตำรวจท้องที่ ร่วมคอยดูสถานการณ์ด้วยตลอดเวลา