วันที่ 21 ธ.ค. 63  ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นาง มัยมูนะ  ม่วงสีตอง  อายุ 61 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 127  หมู่ที่ 1  ตำบลชะไว  อำเภอไชโย  จังหวัดอ่างทอง  แม่บ้านผู้ดูแล มัสยิดอัลยุสรอสามมัคคี  ตั้งอยู่หมู่ที่ 1  ตำบลชะไว  อำเภอไชโย  เล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมของโจรแสบ  ที่แอบปีนเข้ามาในมัสยิดกลางดึก  ก่อนเข้ามางัดตู้บริจาคติดกันถึง 3 ครั้งซ้อน  ได้เงินบริจาคไปเกลี้ยงจำนวนหลายพันบาทหรืออาจจะถึงหมื่นบาท  แถมกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถจับภาพโจรเอาไว้ได้  เพราะโจรฉลาดกว่ารู้ว่ากล้องติดอยู่ตรงไหน แอบปีนเอาผ้ามาปิดกล้องจนดูไม่ได้  หนีลอยนวลไปกับความมืด

จากการสอบถาม นางมัยมูนะ  เล่าให้ฟังว่า  เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 16 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา  คนร้ายได้แอบปีนกำแพงทางด้านหน้าที่เป็นรอยต่อระหว่างหลังคาของมัสยิด  จากนั้นได้ใช้ผ้าคุมกล้องวงจรปิด  เข้ามางัดกุญแจของตู้บริจาคที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าห้องระมาด  ได้เงินบริจาคไปจำนวน 4 – 5 พันบาท  ถัดจากนั้นเพียง 1 วัน  โจรแสบได้แอบปีนเข้ามาทางด้านหลังของมัสยิด  ก่อนที่จะเข้าไปปิดระบบของกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้องควบคุม  ก่อนที่จะมางัดตู้บริจาคไม้ตู้เดิมจนได้รับความเสียหาย  จนกระทั่งเช้าของวันนี้  ตนเองได้เดินทางมาทำความสะอาดตามปกติ  ได้พบว่าตู้รับบริจาคที่แขวนไว้บนผนังทางเข้าห้องระมาด  ถูกทุบด้านล่างจนพังเสียหาย  ก่อนที่จะขโมยเงินไปแล้วเอาผ้าขนหนูมาอุดไว้แทน

ในเบื้องต้นทางกรรมการของมัสยิด  ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นธี  ศิริทอง พนักงานสอสวน สภ.ไชโย  เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวโจรแสบรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย  ส่วนตนเองรู้สึกแค้นใจคนร้าย  ที่เข้ามาทุบทำลายตู้รับเงินบริจาค  ถึงในสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาอย่างไม่กลัวบาปกรรม  ซึ่งมัสยิดก็เหมือนวัดของชาวพุทธ  ที่มีตู้บริจาคเอาไว้ให้ทำบุญให้ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว  และคิดว่าไม่สมควรที่จะทำ  หากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโจรแสบรายนี้มาได้  นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่มัสยิด  ตนเองอยากจะซ้อมซะเองและจะใช้ไม้กวาดตีให้เข็ด  เพราะถือว่าเป็นคนไม่ดี  และให้ได้รับเวรกรรมที่เข้ามาขโมยเงินบริจาคในเร็ววันต่อไป