เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สองสามีภรรยา ดวงดี! พบอ้วกวาฬ หนัก 15 กก. ริมชายหาดในทอน จ.ภูเก็ต


21 ธ.ค. 2563, 17:08



สองสามีภรรยา ดวงดี! พบอ้วกวาฬ หนัก 15 กก. ริมชายหาดในทอน จ.ภูเก็ต




วันที่ 21 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า น.ส.มลฤดี จันทร์บุญ อายุ 26 ปี และ นายวีระ เจืองบุญ อายุ 32 ปี และ สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ 4 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช  เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนและสามี เดินทางไปรับเพื่อนคนหนึ่งที่ จ.ภูเก็ต หลังเพื่อนประสบปัญหาว่างงาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 และเพื่อนไม่มีค่ารถจ้างขนสัมภาระย้ายกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงขอร้องให้ตนนำรถกระบะไปรับ ตนจึงเดินทางไปรับเพื่อนที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมกับสามีและลูก 

 



น.ส.มลฤดี เล่าอีกว่า แต่ระหว่างอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ลูกอยากเที่ยวทะเล ตนและสามี จึงพาลูกไปเดินเที่ยวแถวหาดในทอน อ.ถลาง ระหว่างนั้นคลื่นทะเลค่อนข้างสูงและแรง ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ อย่างไรก็ตามคลื่นทะเลซักเศษซากสิ่งปฏิกูลต่างๆ ทั้ง เศษไม้ ขยะ อวนประมง เข้าริมชายหาดจำนวนมาก ปรากฏว่าขณะเดินเล่นริมชายหาดกับสามี และลูก พบว่ามีสิ่งแปลก ลักษณะเป็นก้อนๆ คล้ายขี้ยางพารา แต่เมื่อเอามือสัมผัสพบว่าไม่ใช่ขี่ยาง แต่ก้อนดังกล่าวมีผิวลื่น มีกลิ่นคาว และนิ่ม ยอมรับว่าตอนนี้ไม่แน่ใจว่าอะไร แต่สามีคิดว่าน่าจะเป็นขี้วาฬ อ้วกวาฬหรืออัมพันทะเล ที่มีราคา เพราะสามีเคยดูสารคดีเกี่ยวกับอ้วกวาฬ จึงมั่นใจว่าใช่แน่นอน สามีจึงใช้ไฟเช็คล้นที่ก้อนดังกล่าวพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเป็นของเหลวคล้ายเทียนไขถูกล้นไฟ และมีกลิ่นคาว จึงมั่นในว่าเป็นอ้วกวาฬแน่นอน จึงนำกลับมาที่บ้านเช่าของเพื่อน และชั่งน้ำหนักได้รวม 15 กิโลกรัม แล้วนำอ้วกวาฬดังกล่าวใส่ลังพลาสติก ก่อนจะนำกลับมาที่บ้าน ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ เก็บรักษาไว้อย่างดี อย่างไรก็ตามตั้งใจว่าจะประกาศขายในโซเชียล แต่ด้วยความกลัวว่าจะถูกหลอกว่า ก้อนดังกล่าวไม่ใช่อ้วกวาฬ จึงเก็บรักษาไว้จนปัจจุบันนานเกือบ 5 เดือน สุดท้ายพบว่ามีข่าวชาวบ้านพบอ้วกวาฬที่ อ.ปากพนัง หนักกว่า 100 กิโลกรัม และมีนายทุนติดต่อขอซื้อ หลังออกข่าว ตนจึงตัดสินใจแจ้งนักข่าวให้ทราบ เพื่อต้องการออกข่าว จะได้มีคนซื้ออ้วกวาฬที่ตนพบจริงๆ ไม่ใช่หลอกลวง


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.