พระเอกหุ่นล่ำ "กอล์ฟ อนุวัฒน์" เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ว่ากว่าการแสดงของตัวเองจะลงล็อคเป๊ะปังได้ขนาดนี้เพราะได้ครูดีคือ นางเอกตลอดกาล "อั้ม พัชราภา" ที่พาทำให้ตัวเองเข้าถึงการแสดงได้อย่างเข้าใจ พร้อมยังได้เล่าย้อนชีวิตที่กว่าจะมาเป็น "กอล์ฟ อนุวัฒน์" ในทุกวันนี้ไม่ได้ปูด้วยพรมแดง ต้องผ่านอุปสรรคมากมายถึง 10 ปี เผยถูกยกให้ขึ้นแท่นเจ้าพ่อซีรีส์วาย เล่นดีจนถูกมองว่า แอ๊บแมน! 

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปี กอล์ฟ เริ่มต้นจากการประกวด
 ประกวดค้นหานักแสดงใหม่ คือ ตอนนั้นโมเดลลิ่งเป็นคนส่งเราเข้าไปประกวดครับ คือทางโมเดลลิ่งที่เราอยู่เขาก็จะส่งโปร์ไฟล์เราไปก่อน แล้วพอเขาเห็นว่าหน้าตาเราผ่านก็ให้ไปเทส (ตอนนั้นก็ไม่ได้เรียนการแสดงอะไรเลย เราเรียนการถ่ายภาพยนตร์ด้วยครับ) ซึ่งเรียนเบื้องหลังอยู่แล้ว ซี่งแอคติ้งเป็นอะไรที่ไกลตัวผมมากยังคิดว่าเราจะทำได้เหรอ แต่ด้วยความที่ว่าตอนนั้นอยากได้เงินเอาไปให้พ่อแม่แค่อย่างเดียวเลย

 ตอนนั้นก็เข้ารอบลึกเหมือนกันครับ แต่ก่อนหน้าเราก็เจอสารพัด คนด่าว่าทำไมเล่นแข็งจัง ทำไมเล่นแบบนี้ ผมก็เลยบอกเขาไปว่าเอาผมตกรอบก็ได้นะถ้ารู้สึกว่าผมเล่นไม่ดี (ที่ผมพูดแบบนั้นเพราะผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะถ้ารู้สึกว่าผมไม่ดีพอเอาผมตกรอบเลย) แต่เพราะว่าผมเข้ากับทีมงานได้ดีมั้ง ทีมงานรัก ไม่ได้มาเพราะฝีมือแน่นอนครับ 

 กอล์ฟ ไปแคสโฆษณาเป็นร้อยๆ ตัวคือ ไม่ได้เลยใช่ไหม
 ไม่ได้เลยครับ คือเราไปเดินเจอโมเดลลิ่งเขาก็ขอเราถ่ายรูปแล้วก็บอกว่าจะส่งรูปเราแคสโฆษณา เราก็รู้สึกดีใจรู้สึกว่าเราจะได้เงิน เราก็นั่งรถเมล์ รถตู้ เพื่อที่จะไปแคส เป็นแบบนี้ร้อยๆ งานเขาก็ไม่เอา ผมจะเข้ารอบสิบคนเขาก็ไปเลือกอีกคนหนึ่ง คนที่เขาเลือกก็คือ เกรท วรินทร คนที่ใกล้ๆ เคียงผมที่สุด แล้วอยู่โมเดลลิ่งเดียวกันด้วย แล้วตอนนั้นคือเราเริ่มไม่มีเงินเแล้วเราก็บอกเขาว่าเราแคสเป็นร้อยๆ งานแล้วเราไม่ได้ เราก็บอกว่าจะไม่ไปแล้วเพราะไม่มีเงิน เพราะทุกครั้งที่ไปมีค่าใช้จ่ายไม่ใช่บาทสองบาท เราก็รู้สึกว่าไม่เป็นไรเราทำเบื้องหลังดีกว่า เพราะเรียนมาทางนี้ ก็ไปของานโปรดิวเซอร์ ไปขอเขาเขียนบท เขาก็ให้งานเรามา ตอนนั้นคือเริ่มหางานทำงานอะไรก็ได้ แต่เราหาเงินได้นะเราก็ภูมิใจเพราะค่าใช้จ่ายเราก็ไม่กี่บาท ซึ่งเราก็หาได้เดือนละหมื่น ตอนนั้นมันก็ถือว่าเยอะเลยทำให้เรารู้สึกสนุกกับการทำเบื้องหลัง ไม่ชอบการทำเบื้องหน้าเลยเพราะ 543 ต้องสนุกเลย 543 ต้องแอคติ้งเลยตอนนั้นเราคิดว่าเราจะทำยังไง เราทำไม่ได้

 แล้วจุดที่เราเปลี่ยนกลับมาเบื้องหน้าได้ยังไง เมื่อเราไปอยู่เบื้องหลังแล้ว
ผมไปแคสโฆษณา คือจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากไป ผมบอกว่าถ้าอยากได้ให้มาแคส ตอนนั้นเป็นเด็กฝึกงาน เขาก็มาหาเรา มาแคสจริงๆ ผมก็บอกเขาว่าผมทำงานอยู่ เขาก็ถามว่าเราทำงานอะไร ผมก็บอกว่าผมยกน้ำเสิร์ฟอยู่ แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็บอกว่าเราได้นะ บทจะได้ก็ได้ตอนนั้น แล้วคือได้เยอะมากเลยนะครับสี่แสนบาทที่ได้ตอนนั้น เรารู้สึกว่าทำไมมันเยอะมากขนาดนั้น และตอนนั้นเราก็ได้โฆษณาติดกันเลย 4 ตัว ดวงมาจริงๆครับตอนนั้นแล้วหลักแสนทุกตัว เราก็คิดว่าเราต้องทำให้มันดีสิ ก็พยายามกลับมาข้างหน้าอีก พี่คิง สมจริง บอกว่าชอบเราเข้ามาแคสหน่อยบทเดียวกับ เกรท วรินทร ก็ยังไปเจอกันอีก และสรุปว่าพี่เกรทได้

แล้วคือรุ่งเช้าจากที่เราไปแคสมา คุณแดง ก็โทรมาหาเราให้เข้ามาเลยเซ็นสัญญาเลย ก็เลยได้เล่นละคร

 รอโอกาสจนได้เล่นละคร แต่พอเล่นเรื่องแรกก็โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเล่นแข็งมาก
 ก็เล่นเรื่องแรกจำบทไม่ได้เลย ต้องถามเลยว่าผมต้องพูดอะไร เขาบอกว่านี่เป็นพระเอกเหรอ จำบทยังจำไม่ได้เลย นี่เขาเรียกจำอวดเขาไม่ได้เรียกว่าดารา เขาไม่ได้เรียกว่านักแสดงตอนนั้นคำพูดนี้มันแทงเข้ามาในใจเลย เราเป็นนักแสดงเราไม่ดีพอเหรอ พอขึ้นรถได้นั่งร้องไห้ แต่ผมก็นึกถึงคนข้างหลังถ้าเราไม่ทำ ไม่สู้ ก็ไม่มีเงิน ก็ร้องให้มันจบแล้วเดินออกไปมาสู้กับมัน

 มีคนที่ทำให้ กอล์ฟ อนุวัฒน์ เข้าใจการแสดงที่สุดเลยคือ
พี่อั้ม พัชราภา ครับ ตอนนั้นเราได้เล่น เพลิงพระนาง พอเราได้เห็นคนเก่งๆ เล่นละครพีเรียด พี่อั้มคือเล่นออกมาได้เป็นธรรมชาติมากเราก็จำในสิ่งที่พี่อั้มเล่น ทำให้เราเข้าใจมากขึ้น

อยู่ในวงการมานาน 10 ปี แต่ปีที่ดังจัดพลุที่สุดคือ ปีนี้
 ตั้งแต่ที่เป็นนักแสดงอิสระชีวิตเปลี่ยนจริงๆครับ เพราะบทชายรักชาย เป็นครั้งแรกที่เรารับบทนี้ พี่ฉอด ถามว่ากล้าเล่นไหม ผมก็บอกว่ากล้าครับ

 พอรับบทชายรับชายจนโด่งดังมากจนทุกวันนี้ คนเลยมองว่า กอล์ฟ ไม่ใช่ชายแท้
ผมต้องบอกก่อนเลยว่า ผมยังชอบผู้หญิง เหมือนเราเล่นแล้วคนอินมั้งกับบทนั้น

 ทุกวันนี้ถ่ายละครมีกำหนดวันกี่วัน ไม่รับกี่วันไหม
 ไม่มีกำหนดเลยครับ ตอนนี้ก็ยังแน่นๆ อยู่ครับ ตอนนี้ก็มีละครที่ช่องอมรินทร์ ชื่อเรื่องเพลงบินใบงิ้วครับ เป็นละครเรื่องคู่ชีวิตที่เราเลือกผิด  ที่จะได้ชมกันปลายเดือนมกราคมครับ