จากกรณีที่ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านแก ม.9 ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่า ในช่วงตีสาม ของวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ได้มีชาวบ้านในหมู่บ้าน จำนวน 4 คน พากันเดินทางกลับบ้านหลังจากไปรับจ้างทำงานก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นเวลานานหลายเดือนและในช่วงปีใหม่ ได้ชวนลูกหลานขึ้นรถไฟ สายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ลงรถไฟที่สถานีรถไฟศีขรภูมิ และพากันนั่งรถจักยานยนต์กลับบ้านกลางดึกแอบเข้าบ้าน ขณะที่ชาวบ้านพอทราบข่าวว่ามีแรงงานที่เป็นเพื่อนบ้านเดินทางกลับ และเข้ามาในหมู่บ้าน พากันแจ้งไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ขอให้ทั้ง 4 คน ออกจากหมู่บ้านไปก่อน พร้อมนำไปที่กักกันตัวไว้ที่กระท่อมกลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้าน 800 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ธ.ค.2563 นายวัลลพ อินทสะอาด ปลัดอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้นำสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ นำมามอบให้และเป็นกำลังใจให้กับผู้ใช้แรงงานทั้ง 4 คน โดยได้บอกว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตลอดจนผู้นำชุมชนไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใดที่นำมากักตัวที่กระท่อมนา ไว้ดูอาการชั่วคราวเนื่องจากว่าพี่น้องที่เดินทางไปใช้แรงงานในจังหวัดที่เสี่ยงเกรงว่าจะมีเชื้อติดมาเลยนำตัวมากักไว้ก่อนเพื่อความสบายใจกันทุกคนพร้อมกับได้ย้ำให้กับผู้ที่ใช้แรงงานได้เข้าใจเพราะหลังจากที่ตกเป็นข่าวชาวบ้านต่างตกอกตกใจและไม่สบายใจหลังจากที่ตกเป็นข่าวแต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าได้ช่วยกันเพื่อให้สังคมและชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และรอผลตรวจหาเชื้อ หากไม่มีการติดเชื้อก็จะได้กลับบ้านเร็วขึ้น ช่วงนี้ให้ทำตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ทางด้านนายสำราญ เหลื่อมล้ำ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นอีกผู้หนึ่งที่เดินทางไปใช้แรงงานได้กล่าวว่าตนเองยอมรับที่ตนเองได้เดินทางมาถึงบ้านแต่ไม่ได้เข้าไปภายในหมู่บ้านแต่อย่างใดแต่ในกรณีที่มีผู้นำตลอดจนครูในโรงเรียนสั่งห้ามไม่ให้ลูกหลานของตนเองเข้าไปเรียนหนังสือในโรงเรียน และเกรงว่าจะเรียนไม่ทันคนอื่น ตนเองก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะตนเองไม่ได้เข้าไปภายในบ้านแต่ลูกหลานตนเองก็พลอยถูกห้ามไปด้วย