จากกรณี นางศศิวิมล ทองมา หรือครูปุ้ม อายุ 53 ปี ภรรยาของนายสมนึก ทองมา หรือครูชลธี ธารทอง นักร้องนักแต่งเพลงและศิลปินแห่งชาติ กรณีครูปุ้ม เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 3 ล้านบาทกับเลขาคนสนิทของครูชลธี ล่าสุดศาลพิพากษาให้ทางฝ่ายเลขาส่วนตัวต้องชดใช้ตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ย แก่ครูปุ้มผู้ฟ้อง ทำให้ครอบครัวแตกแยก

วันนี้ 30 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณศาลเยาวชนและครอบครัวกาญจนบุรี นางศศิวิมล  ทองมา หรือครูปุ้ม อายุ 53 ปี ได้เดินทางไปศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีเลขาส่วนตัว ครูชลธี  ธารทอง เดินทางไปศาลพร้อมกับทนายความ แต่ครูชลธี  ธารทอง ไม่ได้เดินทางไปด้วยในครั้งนี้ โดยศาลได้ใช้เวลาไม่นานทำการไต่สวนกรณีที่ทาง ครูปุ้มทำการฟ้องต่อศาล กรณีที่ทางฝ่ายเลขาทำให้ครอบครัวแตกแยก โดยศาลได้พิพากษาให้ทางฝ่ายเลขาส่วนตัวได้ชดใช้ค่าเสียหายตามฟ้อง พร้อมดอกเบี้ย ทั้ง 2 ฝ่าย  หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินทางออกจากศาล โดยทางเลขาส่วนตัว ครูชลธี ได้หลบหน้าสื่อที่ไปดักรออยู่บริเวณหน้าศาล และคาดว่าน่าจะมีรถเข้าไปรับบริเวณด้านหลังศาลออกไปไม่พบกับสื่อมวลชนที่รอด้านหน้าศาล

 

โอกาสนี้ทาง นางศศิวิมล  ทองมา หรือครูปุ้ม ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของศาลเยาวชนและครอบครัวกาญจนบุรี ที่ได้ให้ความยุติธรรม กับตนเอง และการมารับฟังรู้สึกตื่นเต้นที่ไม่ทราบว่าศาลคิดอย่างไรกับที่ตนได้ฟ้องไป เป็นการขึ้นศาลครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับคดีแบบนี้ แต่เมื่อได้รับฟังศาลแต่ละข้อแล้วก็พอใจมากๆ ผลออกมาว่าหญิงสาวคนสนิทปฏิบัติตนตามที่เราฟ้องไป ศาลได้ตัดสินให้มีการจ่ายค่าชดเชยไม่ขอเปิดเผยตัวเลข พร้อมดอกเบี้ย  สำหรับอาการของน้องเขาเรียบเฉย ครูปุ้ม ก็เกิดการสงสาร เพราะไม่อยากให้ลูกผู้หญิงมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ครูปุ้มก็อยากจะให้ลูกผู้หญิงเอาไปเป็นแบบอย่างกับผู้หญิงทุกคน ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องพึ่งคิดเสมอว่าอะไรควรอะไรไม่ควร อย่างเช่นเรื่องของตนเองนี้เมื่อคุณก็ทราบดีว่าไปอยู่กับสามีคนอื่นแล้วยังไปเล่นดิ๊กตอก ไปไลน์สดในแต่ละพื้นที่ แล้วไปขึ้นตามหน้าโลกโซเชียส ทำให้คนในวงการเกิดการสงสัยมันเกิดอะไรขึ้น เรื่องเช่นนี้ตนเองได้เตือนทางฝ่ายเลขามาตลอด ทั้งแต่ยังไม่มีการฟ้องร้อง แต่ถึงเวลานี้ทุกอย่างมันก็สายไปแล้ว

ครูปุ้มกล่าวย้ำว่า ต่อจากนี้ไปครูปุ้มจะลุย ขอเล่นบทโหดบ้าง เพราะไม่ได้ให้เกียรติกันเลย และครูปุ้มต้องการรักษาชื่อเสียงของครูชล ซึ่งเวลานี้เสียหายมากเลย อย่าให้ใครต้องมาทำลายอีกเลย ครูชลจะอยู่ได้อีกกี่ปี ครูชลไปออกข่าวต่างๆนาๆ เวลานี้ลูกป่วยหนักต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก ทำไมครูชล ไม่ติดต่อไปหาลูกบ้าง ลูกทั้ง 2 เป็นลูกของครูชล ไม่ใช่ลูกของปุ้ม แต่ครูปุ้มก็ไม่ได้นิ่งดูดายต้องช่วย อยากฝากคุณเลขา คุณอย่าทำตัวควบคุมทุกอย่างแม้การติดต่อไปกับลูกครูชล คุณไม่เคยมีลูกคุณไม่รู้หลอกว่าสายเลือดสายสัมพันธ์ พ่อลูกมันลึกซึ้งขนาดไหน ดังนั้นหลังจากนี้ครูปุ้มนี่แหละจะตามไปหาคุณ เล่นกันจริงๆแล้ว เพราะการฟ้องนั้นที่มีใครมาเกี่ยวพันธ์กับสามีตนในเรื่องชู้สาวนั้นฟ้องได้ตลอดเมื่อได้หลักฐานไม่ได้โหดแต่อยากให้เขาได้หยุดให้เขาได้สำนึกว่าบ้านเมือมีขื่อมีแปร ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ได้ น่าอายไหมครูปุ้มยังอยู่มีทะเบียนสมสร มาทำเช่นนี้ได้อย่างไร ฝากไปถึงครูชลธี ให้คิดใหม่อย่าทำอะไรเกินเลยไป ครูปุ้มเสียดายผลงานของครูชลธี และครูชล เที่ยวไปฟ้องคนโน้นคนนี้หยุดได้แล้ว ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ก็อยู่อย่างสบายแล้วเหลือใช้ ครูปุ้ม ไม่ได้มาเป็นปฏิปักษ์ ครูปุ้มรักครูชล ห่วงครูลูกๆทุกคนก็ห่วงครูชล ครูปุ้มย้ำว่าหากครูปุ้มหย่า ครูชลต้องไปจดทะเบียนใหม่แน่นอน และถึงตอนนั้น ครูชล ต้องตายแน่นอน

 

ครูปุ้มอยากฝากให้เป็นเคสศึกษากับลูกผู้หญิงทุกคน อย่าไปหลงเชื้อใจผู้ชาย ดูอย่างครูปุ้ม อยู่มากว่า 30 ปี ยังเกิดปัญหาได้ และเราก็อย่าไปหึงหวงจนเกินไป ทุกอย่างหากได้มาเก็บไว้เป็นของเราอย่าไปเชื่อใจเขา และอะไรที่สามารถเก็บเป็นภาพได้เก็บไว้ เงินทองอย่าไปให้เขาเก็บเด็ดขาด เก็บไว้ในกระเป๋าผู้หญิงจะดีกว่า ดังนั้นลูกผู้หญิงดูอย่างครูปุ้ม ไว้อย่าไปหย่าหากเกิดปัญหา ครูปุ้มไม่หย่าเพราะครูปุ้ม มีเหตุผลเกียรติศักดิ์ศรีของเรา ครูปุ้มไม่ใช่อยู่กับครูชลมาเวลาน้อยนิดอยู่มากว่า 30 ปี ทิ้งทุกอย่างหมด แล้วจู่ๆ จะมาถีบเราทิ้ง และหากวันใด ครูชล จะกลับมาตนเองยินดีจะดูแลครูชล ครูปุ้ม รู้ดีว่าไม่มีใครดูแลครูชล เท่ากับ ครูปุ้ม แน่นอน และฝากไปถึงสังคม ให้ยกโทษให้ครูชล ด้วยบ้างครั้งครูชล ไม่ทันกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง เพราครูชล เป็นคนอ่อนไหว เพราครูปุ้มรู้ดี