เช็คด่วน ! จ่อยกระดับ "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" 28 จว. สกัดโควิด-19 เริ่ม 4 ม.ค. - 1 ก.พ.
2 ม.ค. 2564, 13:03
วันที่ 2 มกราคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กล่าวว่า ที่ประชุม ได้สรุปสถานการณ์ เพื่อใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยพบว่า สถานการณ์ ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระจายไปยังที่ต่างๆ โดยมีผู้ติดเชื้อหลายคน ทราบว่า ตนเองไปสถานที่เสี่ยงแต่ไม่ยอมกักตัว ไม่หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น ไม่เข้าปรึกษาแพทย์ ทำให้แพร่เชื้อต่อเนื่อง ยังพบว่ามีการลักลอบมั่วสุมผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการพนันที่เป็นต้นตอการระบาด และยังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อ และมีอาการ ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล มีจำนวนมากขึ้น จนกระทั่งขีดความสามารถด้านการแพทย์ สาธารณสุข ทั้งด้านบุคลากรและเวชภัณฑ์แพทย์ลดลงจำนวนมาก มีความจำเป็นต้องทบทวนมาตรการป้องกันโรคโควิด
ทั้งนี้ ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม มีความตระหนัก รู้ถึงผลกระทบของการแพร่ระบาด และให้ความร่วมมือ แต่ยังมีส่วนหนึ่งขาดความระมัดระวังในมาตรการที่ ศบค.ขอความร่วมมือ จึงมีความจำเป็นต้องบูรณาการดำเนินมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นภาพรวม
โดยในที่ประชุมมีความเห็นตรงกัน ที่จะต้องนำเสนอ ศบค. ให้ประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ได้แก่ ตาก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทรบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง กรุงเทพ
พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี พังงา
พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด 38 จังหวัด คือ จังหวัดที่เหลือในประเทศไทย 38 จังหวัด
ทั้งนี้ เมื่อมีประกาศยกระดับแล้ว จะมีขั้นตอนการดำเนินการ โดยที่ประชุมมีข้อสรุปว่า จะนำเรียน นายกฯ หากเห็นชอบ จะลงนามประกาศมีผลวันที่ 4 ม.ค. เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัว ย้ำว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนอะไร แต่เป็นการควบคุมให้ผู้ไม่ร่วมมือ และปฏิบัติตามให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม จะไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์ และอาจจะไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว เพราะที่ผ่านมาก็มีคนที่ตั้งใจกระทำความผิด แต่คนเดือดร้อน เป็นคนปกติ ที่ต้องลำบาก และมีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก