ขณะที่ นายนวม ไวเร็ว ผู้ใหญ่บ้านโคกลาว กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ ชาวบ้านสามคน พากันไปขึ้นต้นตาลเพื่อตัดเอาลูกตาลอ่อนมากินน้ำหวาน ขณะพากันนั่งกินน้ำหวาน สุนัขสามตัว ของยายสำรวย มีเจ้าบัวขาว ตัวเมีย เจ้าสี่ตา ตัวผู้ และเจ้าตัวเล็ก ตัวผู้ซึ่งเป็นสุนัขของ ยายสำรวย แกไปเลี้ยงวัวแกก็จะพามันไปด้วยทุกวัน เป็นสุนัขที่แกรักมันมาก แสนรู้ มันพากันวิ่งมาหาคนในหมู่บ้านที่กำลังพากันนั่งกินน้ำหวานลูกตาล วิ่งมาสามตัว แต่วิ่งกลับไป สองตัว ยังอยู่กับชาวบ้านหนึ่งตัว ชาวบ้านสงสัยว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน เพราะสุนัขสามตัวนี่เคยมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง ให้ไปช่วยเจ้าของมัน ชาวบ้านก็คิดว่าน่าจะเป็นน้องชาย ยายสำรวจ เพราะบางทีไปเลี้ยงวัว แต่เมากลับบ้านไม่ได้ สุนัขก็มาตามชาวบ้าน ให้มาช่วยกันหามแกกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ชาวบ้านส่องไฟฉายไปตามสุนัข ห่างกันประมาณ 400 เมตร พบว่าสุนัขนั่งเผาคนนอนตาย แต่เป็นยายสำรวย ไม่ใช่น้องชายยายสำรวย ที่เคยช่วยเหลือ จึงได้โทรศัพท์ มาแจ้งตน เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ในวันนี้ ตำรวจ เจ้าของคดี ได้เรียกพวกตนพร้อมลูกบ้านสามคน ที่เดินทางไปพบศพชุดแรกมาสอบปากคำในฐานะ พยาน

ด้าน พ.ต.ท.ทรงจักร วงศ์พรหม สารวัตรสอบสวน สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกพยานที่เดินทางไปพบศพคนแรกๆมาสอบปากคำในฐานะพยาน ในที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้ใหญ่บ้าน สอบปากคำน้องชายคนตาย สอบเด็กที่ไปขึ้นต้นตาล จำนวน สามคน ขณะนี้ก็รอส่งวัตถุพยานที่เก็บได้นี่เหตุส่งตรวจหาดีเอ็น ซึ่งต้องส่งไปตรวจที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนความเห็นของแพทย์ ยังไม่มีผลตรวจออกมา ซึ่งได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชาวบ้านต่างพากันอยู่อย่างหวาดผวา เพราะว่าส่วนใหญ่ที่อยู่บ้านเลี้ยงวัว ควาย จะเป็นผู้หญิง พอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ชาวบ้านพากันกลัวมาก เพราะในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์ฆ่ากันตาย ชาวบ้านต่างเชื่อว่า เป็นการข่มขืนและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม วิงวอนให้ตำรวจเร่งติดตามคนผิดมาลงโทษ และชาวบ้านสงสัยว่าคนลงมือ น่าจะเป็นคนใกล้ตัวยาย หรือคุ้นเคย เพราะสุนัขแสนรู้ทั้งสามตัว ทำไมไม่รุมกัด คนร้ายที่ลงมือข่มขืนและฆ่ายาย