เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ไหม้วอด "บ้านไม้เก่า" อายุกว่าหนึ่งร้อยปี ยังประเมินมูลค่าไม่ได้


4 ม.ค. 2564, 09:25



ไหม้วอด "บ้านไม้เก่า" อายุกว่าหนึ่งร้อยปี ยังประเมินมูลค่าไม่ได้




เช้าวันนี้ 04 ม.ค. 2564 เวลา 02 . 30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และเทศบาลเมืองปากแพรก นำรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณถนนปากแพรก ย่านตลาดเก่ากาญจนบุรี โดยพบว่าเพลิงได้เริ่มลุกไหม้จากบ้านไม้เก่าแก่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุกว่าร้อยปีที่อยู่ภายในซอยประมาณ 5 หลัง แต่เนื่องจากบ้านที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ภายในซอยแคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปฉีดน้ำในระยะใกล้ได้ ทำให้ต้องฉีดน้ำข้ามกำแพง จึงทำให้ควบคุมเพลิงได้ยาก ประกอบกับบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงชั้นดี อีกทั้งช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรง เพลิงจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว ไปไหม้บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ที่อยู่บริเวณถนนปากแพรกได้รับความเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านต้องช่วยกันขนข้าวของออกมาจากบ้านเพื่อหนีตายกันอย่างอลหม่าน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้ แต่ก็พบว่า มีบ้านเรือนประชาชนถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายประมาณสิบหลังคาเรือนมูลค่าความเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่าแปดล้านบาท แต่โชคยังดีที่ไม่มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้

 

ดร. เบญจวรรณ  เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเร่งรุดบัญชาการสกัดเพลิงด้วยตนเอง แต่อาคารมีทั้งปลูกด้วยไม้และเป็นอาคารปูนผสมไม้ เก่าที่มีอายุเกิน 100 ปี จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ได้เร่งควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดเพื่อไม่ให้เพลิงได้ลุกลามออกไปมาก ส่วนต้นเพลิงยังไม่ทราบเนื่องจากเพลิงยังไม่สงบ และต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหลังเพลิงสงบ สำหรับค่าเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้ เนื่องจากเป็นอาคารเก่าทั้งหมด

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี อยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีอายุเกิน 100 ปี สภาพขอิงสายไฟจึงอาจชำรุดทรุดโทรมและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

 

 

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.