เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังเพลิงกระหน่ำบ้านเรือน เสียหาย 15 หลัง


4 ม.ค. 2564, 17:12



ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังเพลิงกระหน่ำบ้านเรือน เสียหาย 15 หลัง




ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารห้องแถวยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นบ้านพักอาศัยของประชาชน บริเวณถนนปากแพรก หรือถนนคนเดิน ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ที่ผ่านมา

 

          ล่าสุดวันนี้ 04 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พล.ต.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 (ผบ.มทบ.17)ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ รอง ผวจ.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ร.9 พ.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น

 

          โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้ตั้งโต๊ะให้ผู้ได้รับความเดือดร้อน ลงชื่อเพื่อรับการเยียวยา มี ดร.เบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ

          จากนั้นนายจีระเกียรติ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินพบปะผู้ได้รับผลกระทบพร้อมกับไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุบริเวณบ้านต้นเพลิงที่ถูกไฟไหม้ สำหรับบ้านต้นเพลิงที่ถูกไฟไหม้ เป็นทางเข้าซอยที่คับแคบกว้างประมาณ 1.50 เมตร ลึกประมาณ 100 เมตร

 

          จากสภาพซอยที่คับแคบ จึงเป็นอุปสรรคต่อการสกัดเปลวเพลิงของจ้าหน้าที่ สำหรับบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้สองชั้นที่มีสภาพเก่า ของนางพุฒนา ศรีนวล เลขที่ 13/1 ซ.โรงเรียนอร่ามศึกษา ถ.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

 

          สำหรับบ้านพักที่ถูกไฟไหม้เป็นห้องแถว 2 ชั้น ได้รับความเสียหายรวมกันทั้งหมด 15 คูหา ผู้ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวมอญ ที่มาจากฝั่งกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ที่มาเช่าอาศัยเพื่อทำงานใช้แรงงานในตลาดสด และยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระรอกแรก

 

          เบื้องต้นทางเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบสิ่งของเป็นข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมเงินสดคนละ 3,000 บาท เพื่อเป็นการเยียวยาให้กับทุกคน ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราว ทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้จัดเตรียมสถานที่เอาไว้บริเวณศาลา 60 พรรษา ที่อยู่ไม่ไกลนัก

 

          ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามระเบียบแล้วจะต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เมื่อประกาศตามระเบียบแล้วการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐก็จะตามมา ส่วนขั้นตอนการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ขณะนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี กำลังดำเนินการนำเรื่องเสนอขึ้นมาเพื่อให้ตนลงนามประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ แต่การให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งจิตอาสาได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือแล้ว

 

          แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวที่สภาพอากาศแห้ง และที่ผ่านมามักมีข่าวไปไหม้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นจึงอยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีทุกคนทุกครัวเรือน ขอให้เฝ้าระวังและหมั่นตรวจสอบว่าสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด ที่มีอยู่ในบ้านมีสภาพที่ถูกใช้งานหรือยัง หากมีสภาพที่เก่าแล้วก็ก็ให้เปลี่ยนเสียใหม่ และนอกจากนี้หากมีการสุมไฟเพื่อแก้หนาว เมื่อถึงเวลานอนก็ให้ดับให้สนิทเสียก่อน ซึ่งจะเป็นการป้องกันเหตุได้เป็นอย่างดี

 

          สำหรับเหตุการณ์การเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ เท่าที่ทราบสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสายไฟมีสภาพเก่า หลังจากนี้จะได้คุยกับทางเทศบาลให้ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบพื้นที่ใดมีสายไฟที่เก่าแล้วก็ขอให้เปลี่ยนใหม่ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในเขตเทศบาลเองจะต้องคอยหมั่นตรวจตราอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านของตัวท่านเองด้วย

 

          ขณะเดียวกัน พล.ต.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 (ผบ.มทบ.17) เปิดเผยว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบนั้น ทางทหารและทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นอยู่แล้ว ส่วนจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรบ้างต้อรอพูดคุยกับท่านผู้ว่าราชการอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ทหารจะขอให้ฝ่ายพลเรือนเป็นผู้นำ โดยเราได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเอาในการช่วยเหลือเกี่ยวกับการขนย้ายสิ่งของแล้ว

 

          ด้าน ดร.เบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทางเทศบาลเมืองได้จัดสถานที่ใช้สำหรับเป็นศูนย์พักพิงให้กับผู้ที่ไม่มีที่พักอาศัยเอาไว้ที่บริเวณโรงยิมของเทศบาล ที่อยู่ตรงข้ามกับศาลา 60 พรรษา จากนั้นจะดำเนินการเยียวยาตามระเบียบของเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ขณะนี้มีผู้ยื่นความประสงค์ที่จะเข้าพักที่โรงยิมแล้ว จำนวน 15 คน

 

          และจากการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้ครั้งนี้พบอาคารถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด จำนวน 15 ห้อง มีผู้ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 40 คน สำหรับห้องที่ถูกไฟไหม้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเช่า คนเช่าส่วนใหญ่จะเป็นชาวมอญ ชาวพม่า และชาวกะเหรี่ยงที่เป็นแรงงานอยู่ในตลาดสด

 

          ส่วนนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกไฟไหม้บ้านพักอาศัยในครั้งนี้ เบื้องต้นทางเหล่ากาชาดได้นำถุงยังชีพ รวมทั้งผ้าห่มกันหนาวและเงินสำรองล่วงมอบให้รายละ 3,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งเหล่ากาชาดจะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวที่มีบัตรอย่างถูกต้อง โดยการให้ความช่วยเหลือเราจะไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม

 

          พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยถึงแนวทางเกี่ยวกับคดีว่า ช่วงนี้ร้อยเวรเจ้าของคดีรวมทั้งตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบ้านร้าง ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นยามวิกาลที่ไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้าน

 

          ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังดำเนินการเก็บรายละเอียดอยู่ ส่วนค่าความเสียอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักและสอบถามเจ้าของบ้าน ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ส่วนแนวทางของคดีจะต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญของกองพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

 

          นายสุนันท์ สิงห์เสวก อายุ 62 ปี 1 ใน ผู้เสียหายและมีบ้านพักอยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ตอนเกิดเพลิงไหม้เกิดขึ้นประมารตีสองกว่า ขณะนั้นตนนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่งส่วนบ้างหลังนี้มีลูกชายของตนนอนพักอยู่คนเดียว ขณะเกิดเหตุหลายชายของตนตะโกนเรียกบอกว่าไฟไหม้ เมื่อตนตื่นขึ้นมาก็พบว่าเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านที่ลูกชายของตนนอนอยู่ โชคดีที่ลูกชายหนีได้ทัน สำหรับบ้านหลังนี้ปลูกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 60 ปี สำหรับบ้านต้นเพลิงที่อยู่ติดกันนั้นไม่มีใครอาศัยอยู่อยู่เป็นเพียงห้องเก็บของและไม่มีไฟฟ้า ส่วนจะเกิดเพราะสาเหตุอะไรนั้นก็ไม่ทราบเช่นกัน เพราะไม่ใช่บ้านของผม./

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.