ผวาโควิด! ศรีสะเกษสั่งปิดรวด 5 โรงเรียนถึง 11 ม.ค. ห้ามนร.-บุคลากรเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง
4 ม.ค. 2564, 17:56
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายคณิตพันธ์ จามรธัญญวาท ผอ.ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา เปิดเผยว่า จากการที่ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทยและมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 พบกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในด้านสุขภาพของ น.ร.และผู้ปกครอง อีกทั้งเป็นการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าวไม่ให้มีการแพร่กระจายในวงกว้าง ตนจึงประกาศหยุดเรียนเป็นกรณีพิเศษ เป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 64 ถึงวันที่ 8 ม.ค. 64 และเปิดเรียนในวันที่ 11 ม.ค. 64 โดยในช่วงของการประกาศหยุดเรียน ทาง ร.ร.ได้มอบหมายให้ครูประจำวิชาจัดการเรียนการสอนผ่านสื่อออนไลน์ และจะดำเนินการสอนชดเชยตามจำนวนวันที่ประกาศหยุดเรียน หากมีการเปลี่ยนแปลงทาง ร.ร.จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทางด้าน นายสมยศ ภูสิงห์ ผอ.ร.ร.อนุบาลดำรงราชานุสรณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของคณะครู น.ร.และผู้ปกครอง น.ร. ตนจึงได้ประกาศหยุดเรียนด้วยเหตุพิเศษ เป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 64 ถึงวันที่ 8 ม.ค. 64 และจะเปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 11 ม.ค. 64 โดยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติเพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์และแนวทางการจัดการเรียนการสอนชดเชยต่อไป ขณะเดียวกัน ร.ร.ชื่อดังในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ จำนวน 4 ร.ร.ประกอบด้วย ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ร.ร.สตรีสิริเกศ ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ และ ร.ร.อนุบาลวัดพระโต ซึ่งแต่ละ ร.ร.มี น.ร.จำนวนมาก ได้ประกาศหยุดเรียนโดยอาศัยอำนาจตามความในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2549 ข้อ 9 วรรคหนึ่ง (4) และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 (พ.ศ.2558) ว่าด้วยการเปิดและปิดสถานศึกษา โดย ผอ.ร.ร.ทั้ง 4 แห่ง ได้ประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 ม.ค. 64 และจะทำการเปิดทำการเรียนการสอนพร้อมกันในวันที่ 11 ม.ค. 64 โดยได้มีการสั่งห้าม น.ร.และบุคลากรทางการศึกษาเดินทางไปยังพื้นที่ที่การแพร่ระบาดหรือพื้นที่เสี่ยง หากเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงทุกคนต้องแจ้งข้อมูลการเดินทางตามความเป็นจริงโดยไม่ปิดบังข้อมูลต่อ ผอ.ร.ร.หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าวไม่ให้มีการแพร่กระจายในวงกว้างต่อไป