ตร.เร่งไล่ล่า คนร้ายชิงทรัพย์แม่ค้ากุ้ง เชื่อเป็นคนในพื้นที่คาดว่าได้ตัวเร็วๆนี้
5 ม.ค. 2564, 13:23
คืบหน้ากรณี กล้องวงจรปิดสามารถบันทึก เหตุการณ์ไว้ได้ วันนี้ 4 มกราคม 2564 เวลา 11.00 น.ขณะที่มีคนร้าย เป็นชาย อายุประมาณ 20 – 25 ปี ลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีเทา กางเกงยีนส์ขาสั้นรองเท้าแตะใส่แมสปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ Honda Wave สีแดงดำ ล้อทองไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณหน้าร้านสถานีกุ้ง ( ตลาดกุ้งราช คนสุวรรณภูมิ ) เลขที่ 60/130หมู่ 3 ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของชายคนร้ายได้ลักษณะเดินวนอยู่ภายในร้านจากนั้นมานั่งบริเวณเก้าอี้ แล้วพอสบโอกาสเห็นกระเป๋าสตางค์ จึงใช้ช่วงจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอรูดซิปกระเป๋าสตางค์ฉกเงินที่อยู่ภายในกระเป๋าออกมากำไว้ที่มือจากนั้น จะเห็นภาพวินาที ที่เจ้าของร้านออกมาทันทีแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์เอาไปเก็บไว้ ซึ่งเป็นจังหวะนั้นที่คนร้ายน่าจะรู้ตัวว่าเจ้าของร้านรู้แล้วว่าถูกขโมยเงินจึงพยายามลุกออกจากเก้าอี้และก็จะเห็นภาพวินาทีที่เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงวิ่งไล่ตามออกไปทันบริเวณหน้าร้านและจะเห็นได้ว่ามีการ ยื้อยุดชุดกระชากกันบริเวณหน้าร้านจนรถของคนร้ายล้มแต่ก็ไม่สามารถยื้อแรงคนร้ายได้จึงก่อนคนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป
วันที่ 5 มกราคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายชิงเงิน ร้านสถานีกุ้งที่ตั้งอยู่ภายในตลาดราชมงคลสุวรรณภูมิ ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ว่าหลังจากรับแจ้งเหตุได้มีการสั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกหาข่าวและข้อมูลติดตามคนร้ายตามตำรูปพรรณสันฐานตามกล้องวงจรปิดที่ สามารถจับภาพไว้ได้ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนคนที่ก่อเหตุอาจจะเป็นวัยรุ่นที่อยู่ภายในพื้นที่ใกล้เคียงโดยใช้ช่วงเวลาและสถานการณ์โควิด ที่มีมาตรการให้สั่งนำอาหารไปทานที่บ้านจึงไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านแล้วเข้ามาโฉยโอกาสก่อเหตุ ซึ่งดูจากรูปประพันธ์สัณฐานของคนร้ายรถที่ใช้ก่อเหตุและหลักฐานที่หล่นในวันที่เกิดเหตุน่าจะสามารถสืบสวนไปถึงตัวผู้ก่อเหตุ ได้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตามจึงขอฝากเตือนผู้ประกอบการร้านค้าเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในยุคข้าวยากหมากแพงทำให้มีโจรผู้ร้ายจำนวนมากและจะช่วยโอกาสในช่วงที่ปลอดคนเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ตามร้านต่างๆจึงขอให้ผู้ประกอบการดูแลตนเองและส่วนเงินและของมีค่าก็ให้เก็บให้มิดชิดไม่ให้ล่อตาล่อใจโจร เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและทรัพย์สินจากพวกมิจฉาชีพหรือกลุ่มโจรที่ใช้โอกาสในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ออกมาสร้างความเดือดร้อนว้ำเติมให้กับประชาชนในช่วงนี้