"รอง ผบ.ตร." บินด่วนสอบฆาตกรโหด ฆ่าสาวโรงงานเปลือยคาห้องเช่า เผยปมแค้นเรื่องส่วนตัว
30 ก.ค. 2562, 16:40
คืบหน้า กรณีนางนันทนา พิทักษา อายุ 42 ปี สาวโรงงานถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทง และเฉือนตามร่างกายนับ 10 แผลเสียชีวิตในสภาพศพเปลือยกายล่อนจ้อนในห้องน้ำภายในห้องเช่าหมายเลข 133/9 ในชุมชนอุไรรัตน์ ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ0สระบุรี เมื่อคืนวันที่ 28 ก.ค.62 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ค่ำวานนี้ ( 29 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า แหล่งข่าวจากชุดจับกุม แจ้งว่าหลังสืบสวนสอบสวน ผู้เกี่ยวข้องและพยานแวดล้อมต่างๆแล้ว ทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ “บังเล็ก” ชาวมุสลิมเพื่อนข้างห้อง และเป็นเพื่อนกับนายซาอุดี เจ๊มุ สามีนางนันทนา ผู้ตาย อีกทั้งยังทำงานแผนก”เชือดไก่” ในโรงงานแปรรูปไก่ที่เดียวกันด้วย หลังเกิดเหตุได้หายตัวไปจากห้องพัก รายงานข่าวแจ้งว่าชุดจับกุมได้ติดตามไปจับกุมตัวนายสุไรดี ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี “บังเล็ก” ตามหมายศาล จ.สระบุรี ที่ 170/2562 ลงวันที่ 29 ก.ค.2562 ได้ในพี้นที่ สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย ที่นายซูไรดีฯใช้หลบหนี ควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.แก่งคอย
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.) และคณะ เดินทางมาที่ สภ.แก่งคอย เพื่อสอบสวนผู้ก่อเหตุ นายสุไรดี ยะโก๊ะ ด้วยตนเองที่ห้องทำงานของ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผกก.สภ.แก่งคอย ใช้เวลาราว 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นได้ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ที่มารอทำข่าวกันเป็นจำนวนมากหลังแถลงข่าว ได้มี ญาติๆ นางนันทนา ผู้เสียชีวิต ได้นำกระเช้าเข้าขอบคุณ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ รอง ผบ.ตร.ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วด้วย และมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนจาก สำนักงานยุติธรรม จ.สระบุรี นำเอกสารหนังสือมอบให้กับทางญาติผู้เสียชีวิต กรณีถูกฆ่าตาย ดังกล่าว ค่าตอบแทนคดีผู้เสียหายคดีทางอาญาของ กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ของกระทรวงยุติธรรม มีฝ่ายญาติมี พี่ชายและลุง รับมอบ จากนี้ต้องรอการพิจารณาของศาลจังหวัดสระบุรี กระทรวงยุติธรรม เหยื่่อทางญาติตะได้ค่าตอบแทนว่าจะได้เงินตอบแทนเท่าไหร่ แต่วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท อยู่ที่คณะกรรมการพิจารณา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ (ชุดจับกุม) ทีสามารถคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่ามีเรื่องส่วนตัวโกรธแค้นกันมาก่อนเพราะเคยถูกนายซาอุดี เจ๊มุ และนางนันทนา ผู้ตาย ดูถูกเหยียดหยามและพาพวกมารุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า สาเหตุที่โกรธแค้นกันมาก่อนมาจากเรื่องใด รอง ผบตร.ตอบว่า ผู้ต้องหารับเพียงว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ผู้ต้องหาเคยต้องโทษหรือมีคดีใดๆมาก่อนหรือไม่ รอง ผบ.ตร.ตอบว่า เคยต้องโทษคดี เสพ และจำหน่ายยาเสพติด และเปิดเผยต่อว่า ผู้ต้องหารับว่าก่อนก่อเหตุได้นั่งดื่มเหล้าที่หน้าห้องพักซึ่งอยู่เยื้องๆกับห้องผู้ตายเป็นการย้อมใจและรอเวลาที่จะลงมือในช่วงปลอดคน ซึ่งมีความพยายามที่จะสังหารทั้ง สองสามีภรรยา เพื่อระบายแค้นแต่ พบนางนันทนาเพียงคนเดียว จึงสังหารได้เพียงคนเดียว หลังก่อเหตุได้หลบหนีนำอาวุธมีดไปทิ้งในพงหญ้าแล้วขี่รถ จยย.ของนางนันทนา ไปหาเพื่อนชุมชนมุสลิมที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมได้ดังกล่าว
เสร็จแล้ว พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ พร้อมคณะ และชุดจับกุม หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของตำรวจภูธร จ.สระบุรี อาวุธครบมือควบคุมตัวนายซูไรดี ยะโก๊ะ ขึ้นรถตู้ไปชี้ที่เกิดเหตุในบริเวณห้องเช่า ในชุมชนอุไรรัตน์ ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมารอมุงดูและตะโกนสาปแช่งให้ลงโทษด้วยการประหารชีวิตสถานเดียวเพราะผู้ก่อเหตุกระทำลงไปด้วยความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ใช้เวลาเพียงราว 15 นาทีจึงเสร็จสิ้นก่อนรีบควบคุมตัวกลับไปคุมขังไว้ที่ห้องควบคุม สภ.อแก่งคอย เพื่อรอนำตัวไปฝากขังต่อศาล จ.สระบุรีในวันพรุ่งนี้( 31 ก.ค.62)เวลา 10.00 น.