เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เมืองกรุงเก่า" เดินหน้าค้นหาเชื้อโควิดเชิงรุกใจกลางเมือง เผย ! ยังไม่พบเชื้อ


7 ม.ค. 2564, 13:46



"เมืองกรุงเก่า" เดินหน้าค้นหาเชื้อโควิดเชิงรุกใจกลางเมือง เผย ! ยังไม่พบเชื้อ




เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 7 มกราคม 2564 ที่บริเวณด้านหน้าเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดคัดกรองเชิงรุก ที่เพิ่มขึ้นอีก 1 จุดในวันนี้ โดยจัดจุดตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกActive Case Finding เป็นพื้นที่ใจกลางเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังพบมีประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สาธารณสุขจังหวัด เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลการุณเวช ที่มาร่วมปฎิบัติการเชิงรุก เพื่อเป็นการตรวจค้นหากลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้าพี่น้องประชาชนต่างเดินทางเข้ามารับการตรวจกันอย่างต่อเนื่อง หลังผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ล่าสุดรวมแล้ว 15 ราย แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ไปมีกิจกรรมที่บ่อนไก่ จังหวัดอ่างทอง

 

 



นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังกล่าวย้ำอีกว่า อยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นสายสืบ หลังพบว่ามีบุคคลบางประเภทที่ใช้ชีวิตเสี่ยงแต่ไม่มาเข้าระบบการตรวจให้ท่านเป็นผู้ช่วยส่งข่าวสารให้ทางราชการ ทางเจ้าพนักงานควบคุมโรคของจังหวัดและอำเภอจะไปออกคำสั่งให้บุคคลนั้นเข้าสู่กระบวนการตรวจโรค ถ้าเขาไม่ทำเขาจะมีความผิดตามกฎหมาย ถ้าเราทำแบบนี้พร้อมเพียงกันมั่นใจได้ว่าเราจะควบคุมโรคได้เร็วขึ้น

ในส่วนการตรวจเชิงรุกตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตรวจไปแล้ว 6,644 ราย เนื่องจากเชื้อที่ส่งไปตรวจมีจำนวนมาก เราทราบผลแล้วประมาณ 2 พันกว่าคน เป็นผลลบ รออีกประมาณ 4,000 คนที่จะทราบผลในวันนี้วันพรุ้งนี้ สิ่งเรานี้ทำให้พบว่าประชาชนมีความตระหนักมากขึ้น กระตือรือร้น เพียงแต่ว่าบางคนที่ไม่มีความเสี่ยงใดๆแต่มีความวิตกกังวน ทางจังหวัดก็มีสายด่วนของทางสาธารณสุขจังหวัดที่ให้คำปรึกษาได้ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านก็สามารถให้คำปรึกษาได้เพื่อคลายความกังวนใจ

ด้านมาตรการเดินทางข้ามจังหวัด เนื่องจากจังหงัดพระนครศรรีอยุธยา เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ก็คือ สีแดง เพราะฉะนั้นคนที่จะเดินทางเข้าหรือออกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำเป็นที่จะต้องอยู่ในมาตรการการคัดกรอง ส่วนที่ 2 ทางส่วนกลางให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งด่านตรวจ วันนี้จะเริ่มตั้งด่านตรวจแล้ว แต่ว่าเนื่องด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเองนั้น เรามีสถานประกอบการอุตสาหกรรมถึง 2,700 แห่ง มีคนงานที่เป็นคนไทยประมาณ 340,000 คน โดยประมาณได้ให้ทางชมรมบริหารงานบุคคลของทาง สภาอุตสหกรรมจังหวัดได้ช่วยประเมินว่าคนงานที่ต้องเดินทางเข้าออก ซึ่งจะมีรถโดยสารพนักงานเข้าออก ประมาณ 3,400 – 3,500 เที่ยวต่อวัน คนงานรวมๆประมาณ 140,000 คน ที่ต้องเดินทางจากจังหวัดข้างเคียง เข้ามาทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พอหมดกะก็ไปส่งกลับบ้าน ซึ่งถ้ามีการใช้มารตการ กักตัว 14 วันจะกระทบต่อการผลิตอย่างมาก

 

 

 


ซึ่งจังหวัดไม่ได้ละเลยในปัญหาส่วนนี้ คือ 1.ในสถานประกอบการเองทุกแห่งก็มีความระมัดระวังกันอย่างเต็มที่ มีการคัดกรอง มีการดูแลคนงาน ตามมาตรการสาธารณสุข แต่การเดินทางเข้าออกเราขอให้ทางผู้ประกอบการโดยผู้บริหารทำหนังสือรับรอง กำกับไว้กับรถทุกคัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบว่ารถคันนี้บรรทุกคนจะไปไหนอย่างไรที่ไหน รถขนวัตถุดิบ ขนอะไหล่ อุปกรณ์ ก็ต้องทำหนังสือรับรอง เจ้าหน้าที่ด่านตรวจจะได้เก็บสำเนาไว้เพื่อสอบสวนโรคต่อไป แต่ในส่วนของคนงาน คนงานทุกคนที่เข้าออกในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางจังหวัดได้ร่วมกับสภาอุตสหากรรมและหอการค้า ร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการได้ทำแบบ เอ็กเซลฟอร์ม ซึ่งจะระบุว่าคนงานที่มาทำงานมีทั้งหมดชื่ออะไร หมายเลขโทรศัพท์ ภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน เส้นทางเดินทางเข้าออกเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะส่งมาที่สาธารณสุขจังหวัดเก็บเป็นข้อมูลไว้ ถ้าพบการติดเชื้อก็ง่ายต่อการไปทำการสอบสวนโรค ก็ขอความร่วมมือผู้ประกอบการทุกท่าน แต่ถ้าพบมีการติดขัดอย่างไรก็สะท้อนมาทางจังหวัดเพื่อจะได้มีการปรับแก้ต่อไป คิดว่ามาตราการ การควบคุมโรคที่บูรณาการร่วมกับภาคของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่จะต้องไปด้วยกันให้ได้ขอความร่วมมือให้ร่วมกันปฎิบัติ

 

 


คำที่เกี่ยวข้อง : #กรุงเก่า   #โควิด-19   #ค้นหาเชื้อโควิด-19  




Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.